องค์การอนามัยโลกยัน การกินเนื้อแดง และอาหารแปรรูป ในปริมาณมาก เพิ่มความเสี่ยงมะเร็งลำไส้จริง
องค์การอนามัยโลก (WHO) เผยว่าการ "รับประทานเนื้อแดงและอาหารแปรรูป เสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่" กรมการแพทย์ โดยสถาบันมะเร็งแห่งชาติ ได้ตรวจสอบข้อมูลวิชาการพบข้อเท็จจริง คือ องค์กรวิจัยมะเร็งนานาชาติ หรือ International Agency for Research on Cancer (IARC) ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้องค์การอนามัยโลก จัดให้เนื้อสัตว์แปรรูปเป็นสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 คือ สามารถก่อมะเร็งในมนุษย์ ส่วนเนื้อแดง เป็นกลุ่ม 2A คือ อาจจะก่อมะเร็งในมนุษย์
ทำไมเนื้อแดง และอาหารแปรรูป ถึงเสี่ยงมะเร็ง?
นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า เนื้อสัตว์แปรรูป คือ เนื้อที่ผ่านการคลุกเกลือ หมัก บ่ม รมควัน และวิธีอื่นๆ ที่เพิ่มรสชาติหรือถนอมอาหารให้ดีขึ้น เช่น แฮม ไส้กรอก กุนเชียง หมูยอ โดยการบริโภคเนื้อแปรรูปที่มากขึ้นและเป็นประจำ จะเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้และลำไส้ตรงได้ ส่วนเนื้อแดงของสัตว์ต่างๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อแกะ เนื้อหมูป่า เนื้อม้า และเนื้อแพะ เป็นต้น มีรายงานจากไอเออาร์ซีที่ระบุว่า การกินเนื้อแดงมีความสัมพันธ์กับการเพิ่มความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำไส้และลำไส้ตรง
เนื้อแดง อาหารแปรรูป กินอย่างไร ปลอดภัยจากมะเร็งลำไส้ใหญ่?
นพ.จินดา โรจนเมธินทร์ ผู้อำนวยการสถาบันมะเร็งแห่งชาติ กล่าวว่า เนื้อสัตว์แปรรูปจัดอยู่ในสารก่อมะเร็งกลุ่ม 1 คือ สามารถก่อมะเร็งในมนุษย์ ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกันกับบุหรี่ แอลกอฮอล์ แร่ใยหิน สารหนู เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม เนื้อสัตว์แปรรูปก็ไม่ได้มีอันตรายมากเท่าสารเหล่านี้ ดังนั้น ประชาชนจึงสามารถรับประทานเนื้อสัตว์แปรรูปได้ แต่สิ่งสำคัญคือให้จำกัดปริมาณการรับประทาน และเนื้อแดงก็เช่นเดียวกัน เพราะเนื้อแดงมีคุณค่าทางโภชนาการและมีสารอาหารต่างๆ อาทิ โปรตีน สังกะสี เหล็ก และวิตามินบี 12
ดังนั้น จึงไม่ควรงดรับประทานเนื้อแดงแต่ควรรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม ซึ่งกองทุนวิจัยมะเร็งโลกแนะนำว่าควรรับประทานเนื้อแดงไม่เกิน 500 กรัมต่อสัปดาห์ และรับประทานโปรตีนจากแหล่งอื่นเพิ่มเติม เช่น ไข่ เต้าหู้ ถั่ว ฯลฯ รวมทั้งควรบริโภคอาหารให้มีความหลากหลาย