[x] ปิดหน้าต่างนี้
 
  
 


เนื้อหา : เรื่องเด่นวันนี้
หมวดหมู่ : ข่าวประชาสัมพันธ์
หัวข้อเรื่อง : เคลียร์อีกครั้งโลกจะดับไหม 2012

ศุกร์ ที่ 17 เดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555


2012 โลกจะดับจริงหรือ? (ภาพประกอบจากภาพยนตร์ Deep Impact)
   


2012 โลกจะดับจริงหรือ? (ภาพประกอบจากภาพยนตร์ Deep Impact)
2012 โลกจะดับจริงหรือ? (ภาพประกอบจากภาพยนตร์ Deep Impact)
 

2012 โลกจะดับจริงหรือ? (ภาพประกอบจากภาพยนตร์ Deep Impact)

 หลายคนอาจยังกังวลว่าปี 2012 นี้โลกจะแตกดับตามคำทำนายหรือไม่? บ้างว่าโลกจะถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน บ้างว่าดาวเคราะห์เรียงตัวจะทำแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ ซึ่งมีหลายข้ออ้างที่ฟังเผินๆ แล้วก็ดูน่าจะเป็นไปได้ ทางสถาบันดาราศาสตร์จึงจัดเสวนาเพื่อให้คนในวงการวิทยาศาสตร์ได้ออกมาให้ข้อมูลเพื่อเคลียร์ความกังวลนี้อีกครั้งหนึ่ง
   
   
สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (สดร.) และองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ร่วมกันจัดเสวนา “2012 ฤาโลกจะสูญสิ้น” เมื่อวันที่ 10 ก.พ.55 ณ จัตุรัสวิทยาศาสตร์ อพวช. จามจุรีสแควร์ โดยมีผู้ร่วมเสวนาคือ ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. ดร.บัญชา ธนบุญสมบัติ จากสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) และ ดร.พิชัย สนแจ้ง ผู้อำนวยการ อพวช.
   
   สำหรับที่มาของความตื่นตระหนกเรื่องวันสิ้นโลกในปี 2012 หรือปี 2555 นี้ ดร.บัญชาระบุว่า มีที่มาจากภาพยนตร์ โดยประเด็นหลักๆ เกี่ยวกับอารยธรรมของชาวมายาซึ่งอยู่ในช่วงคริสตศักราช 300-900 โดยชาวมายานั้นใช้ปฏิทิน 3 แบบ คือ ปฏิทินศาสนาที่ 1 ปี ยาว 260 ปฏิทินสุริยคติที่ 1 ปียาว 365 วัน และปฏิทินรอบยาว (Long Count) ซึ่งยาวนาน 5,000 ปี สำหรับหนังสือแรกๆ เกี่ยวกับวันสิ้นโลกตามความเชื่อของชาวมายาเท่าที่ค้นได้นั้นคือหนังสือ The Maya ที่เขียนโดย ไมเคิล ดี โค (Michael D Coe)
   
   ข้อมูลจากหนังสือเกี่ยวกับชาวมายาดังกล่าวระบุว่าโลกถูกสร้างขึ้นมา 4 ครั้ง ครั้งแรกมีเพียงสัตว์และป่า แต่ถูกทำลายลงไปเพราะไม่มีสิ่งมีชีวิตที่พูดได้ ครั้งที่ 2 มนุษย์โคลนถูกสร้างขึ้นแต่เมื่อโดนน้ำก็ละลาย และเกิดโลกครั้งที่ 3 ซึ่งมีมนุษย์ไม้ที่คุยได้ สืบพันธุ์ได้ แต่ไม่บูชาเทพเจ้า จึงเกิดการทำลายโลกเป็นน้ำท่วมครั้งใหญ่ มนุษย์ไม้ส่วนหนึ่งได้หนีเข้าไปในป่าและกลายเป็นลิง แล้วโลกก็ถูกสร้างขึ้นเป็นครั้งที่ 4 เป็นมนุษย์แป้งข้าวโพด ซึ่งแต่ละรอบของการสร้างโลกจะเป็น 5,000 ปี
   
   สำหรับข้ออ้างที่มักกล่าวว่าจะเป็นสาเหตุของวันสิ้นโลกนั้นมักเกี่ยวข้องกับเรื่องดาราศาสตร์ ซึ่ง ดร.ศรัณย์ให้ความเห็นว่า เป็นเพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนอกโลกนั้นเป็นปัจจัยที่ดูว่าน่าจะทำลายล้างโลกได้มากกว่า ซึ่งในความเป็นจริงหลายปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ก็สามารถทำลายได้อย่างแม่นยำ เช่น การเกิดสุริยุปราคา เป็นต้น แต่หลายข้ออ้างที่เกี่ยวเนื่องทางดาราศาสตร์นั้นฟังดูไม่มีเหตุผล เช่น หลุมดำจะดูดกลืนโลกเข้าไป ซึ่งฟังดูน่ากลัวเหมือนมีเครื่องดูดฝุ่นยักษ์จะดูดโลกเข้าไป เป็นต้น
   
   เรื่องดาวเคราะห์น้อยพุ่งทำลายโลกก็เป็นอีกข้ออ้างที่ถูกพูดถึงบ่อยๆ ซึ่ง รอง ผอ.สดร.กล่าวว่า ข้อมูลขอนักดาราศาสตร์ที่มีอยู่ทั้งหมดนี้ ไม่มีข้อมูลไหนที่ระบุว่าจะมีวัตถุเฉียดใกล้โลกในวันที่ 21 ธ.ค.55 ตามความเชื่อว่าจะเป็นวันสิ้นโลกตามวันสิ้นสุดปฏิทินรอบยาวของชาวมายาอย่างแน่นอน และอีก 100 ปีข้างหน้านับจากนี้จะไม่มีดาวเคราะห์น้อยเฉียดเข้าใกล้โลกอย่างแน่นอน
   
   ส่วนเหตุการณ์ที่มีดาวเคราะห์น้อยเฉียดใกล้โลกมากที่สุดคือ เมื่อวันที่ 9 พ.ย.54 ที่ดาวเคราะห์น้อย วายยู55 (YU55) ซึ่งมีขนาด 300 เมตร เฉียดใกล้โลกที่ระยะ 324,900 กิโลเมตร และโอกาสที่โลกจะถูกดาวเคราะห์น้อยพุ่งชนมากที่สุดคือในวันที่ 16 มี.ค.ในปีพ.ศ.3423 ซึ่ง ดร.ศรัณย์ระบุว่า ดาวเคราะห์น้อย 1950 ดีเอ (1960 DA) ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 1.1 กิโลเมตร และมีคาบโคจรรอบดวงอาทิตย์ 2.2 ปีนั้น มีโอกาสจะพุ่งชนโลก 0.33% ส่วนความเชื่อเรื่องดาวนิบิรุ (Nibiru) นั้น หากมีจริงและกำลังจะพุ่งชนโลก เราต้องสามาถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าเพราะดาวดังกล่าวจะสว่างเทียบเท่ากับดวงจันทร์เลยทีเดียว
   
   อย่างไรก็ดี ในมุมของ ดร.พิชัย สนแจ้ง ผอ.อพวช. กล่าวว่า ความจริงเรื่องหนึ่งในโลกนั้นทุกอย่างเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา หากนำเอาเราในตอนนี้ไปอยู่ในยุคเมื่อ 3,500 ล้านปีก่อนเราไม่สามารถอยู่ได้ ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยสิ่งมีชีวิตจะมีอายุอยู่บนโลกประมาณ 4 ล้านปี จึงมีคำถามว่าเมื่อมองไปอีก 4 ล้านปีข้างหน้ามนุษย์อย่างเราจะมีโอกาสอยู่ถึงช่วงเวลาดังกล่าวหรือไม่ เมื่อ 65 ล้านปีก่อนโลกอาจโดนดาวเคราะห์น้อยพุ่งชน แต่เมื่อเทียบกับโลกตอนนี้ เพียงแต่ต้นศตวรรษที่ 19 จนถึงตอนนี้ก็มีตะกั่วแพร่กระจายในสิ่งแวดล้อมมากกว่ายุคแรกเริ่มแล้ว
   
   “ผมไม่ค่อยกลัวอะไรที่มาจากนอกโลกแต่กลัวปัจจัยภายในที่เร่งให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากกว่า” ดร.พิชัยให้ความเห็น
   
   ทั้งนี้ ในเวทีเสวนาดังกล่าวยังชี้แจงความเชื่อเกี่ยวกับสิ้นโลกอีกหลายประเด็น เช่น การกลับขั้วของแม่เหล็กจะทำให้สิ่งมีชีวิตสูญสิ้นหรือไม่ ซึ่งข้อมูลวิทยาศาสตร์ไม่มีหลักฐานเชื่อมโยงว่าการกลับขั้วแม่เหล็กสัมพันธ์กับการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต รวมไปถึงความกลัวที่ว่าโลกจะสลับขั้ว ซึ่งในความเป็นจริงไม่เป็นเช่นนั้น เพราะขั้วโลกเกิดจากการหมุนของโลก และการกลับขั้วแม่เหล็กและขั้วโลกนั้นไม่เกี่ยวกัน หรือการเรียงตัวของดาวเคราะห์ก็ไม่ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหว เพราะมีแรงโน้มถ่วงที่กระทำต่อโลกน้อยมากเมื่อเทียบกับแรงจากดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ เป็นต้น



เข้าชม : 740


ข่าวประชาสัมพันธ์ 5 อันดับล่าสุด

      ศคส.ปันสุข สนุกกับการเรียนรู้ 13 / ธ.ค. / 2566
      กรมส่งเสริมการเรียนรู้ 18 / พ.ค. / 2566
      ยินดีต้อนรับ ผอ.พิชญณ์ภัทร ศรีประสิทธิ์ 27 / ต.ค. / 2565
      วันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2565 7 / ม.ค. / 2565
      แนะนำหนังสือน่าอ่าน 29 / ต.ค. / 2564




ชื่อ/Email :
ใส่รหัสที่ท่านเห็นลงในช่องนี้
ไอคอน : ย่อหน้า จัดซ้าย จัดกลาง จัดขวา ตัวหนา ตัวเอียง เส้นใต้ ตัวยก ตัวห้อย ตัวหนังสือเรืองแสง ตัวหนังสือมีเงา สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน สีส้ม สีชมพู สีเทา
อ้างอิงคำพูด เพิ่มเพลง เพิ่มวีดีโอคลิป เพิ่มรูปภาพ เพิ่มไฟล์ Flash เพิ่มลิงก์ เพิ่มอีเมล์
ความคิดเห็น :


กรุณาใช้คำพูดที่สุภาพ และอย่าใช้คำพูดที่พาดพิงถึงบุคคลอื่นให้เสียหาย ขอขอบคุณที่ให้ความร่วมมือ


ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของระบบไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม กรุณาแจ้งที่ ที่นี่ เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

 
ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอดอยสะเก็ด  จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-496147
  ห้องสมุดประชาชนอำเภอดอยสะเก็ด 555 หมู่ที่ 3 ถนนบ่อสร้าง-เชียงใหม่ อำเเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ 053-495500
Doisaketlibrary@gmail.com
libdoisaket@cmi.nfe.go.th
บาคาร่า Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.05HD  Update by   นายบุญมา มาดี