พ่อแม่ระวัง อย่าให้สื่อไอทีเลี้ยงลูกแทน
พบพ่อแม่ยุคใหม่ยุ่งอยู่กับอุปกรณ์ไอทีเช่น สมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ตพีซีมากเกิน ส่งผลให้ลูก ๆ ต้องหันไปพึ่งทีวี หรือคอมพิวเตอร์เป็นตัวช่วยแก้เหงามากขึ้น และอาจนำไปสู่การเสพติดสื่อไอทีในที่สุด
ในยุคที่ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีพุ่งเร็วกว่าหัวใจ บางครั้งก็อาจทำให้ความอบอุ่นในครอบครัวเลือนหาย จากการสำรวจของประเทศอังกฤษพบว่า ปัจจุบันประชากรวัยทีนอายุระหว่าง 12 - 15 ปีใช้เวลาอยู่กับหน้าจอต่าง ๆ เฉลี่ยแล้วไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงไม่น้อยเลยทีเดียว และตัวเลขดังกล่าวนี้เป็นเวลาที่ใช้สื่อไอทีภายในบ้านเท่านั้น ยังไม่รวมการใช้คอมพิวเตอร์ที่โรงเรียน หรือสมาร์ทโฟนในช่วงพักกลางวันด้วย
สถิติที่น่าตกใจนี้ทำให้มีหลายฝ่ายต้องการให้มีการออกกฎควบคุมการรับชมโทรทัศน์สำหรับเด็กเล็ก พร้อมกับมาตรการให้ผู้ปกครองควบคุมการใช้งานอุปกรณ์เทคโนโลยีของลูก ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ปกครองบางส่วนใช้มันเป็นพี่เลี้ยงลูกขณะที่ตนเองไม่มีเวลา
เป็นที่ทราบกันดีกว่า การเสพติดสื่อไอทีดังกล่าวส่งผลเสียต่อร่างกายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมการรับประทานอาหารมากเกินไป การขาดการออกกำลังกาย และอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อการทำงานของฮอร์โมนต่าง ๆ ในร่างกาย นอกจากนั้น ในการวิจัยก่อนหน้านี้ยังพบว่า การตอบสนองของสมองต่อเกมคอมพิวเตอร์นั้นไม่ต่างกับการเสพยาเสพติด หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกด้วย
แม้ว่าแนวทางแก้ไขจะเป็นสิ่งที่กล่าวกันมานานหลายปีแล้ว อย่างเช่น การยกทีวีออกไปอยู่นอกห้องนอน การจำกัดชั่วโมงการรับชมทีวีในเด็กเล็กว่าไม่ควรเกิน 1.5 ชั่วโมงต่อวัน (อายุ 3 - 7 ขวบ) ส่วนเด็กโตกว่านั้นอาจเพิ่มเป็น 2 ชั่วโมงต่อวัน แต่สิ่งที่ทำให้ปัญหานี้ลุกลามบานปลายคือ "ผู้ปกครอง" เนื่องจากผู้ปกครองส่วนหนึ่งยินดีให้เด็ก ๆ รับสื่อไอทีเหล่านี้เข้ามาเป็นเพื่อนข้างกายในเวลาที่ตนเองต้องวิ่งวุ่น จัดการกิจธุระต่าง ๆ เพราะเด็กจะนั่งนิ่ง จดจ่ออยู่กับหน้าจอไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ และทำให้ผู้ปกครองมีสมาธิมากพอที่จะทำงานต่าง ๆ ให้ลุล่วงไปได้
กระนั้น หากเมื่อเทียบกับผลกระทบในแง่ลบที่เด็กได้รับจากสื่อไอที ไม่ว่าจะเป็นอาการสมาธิสั้น การยึดตนเองเป็นศูนย์กลาง ไม่สนใจความเป็นไปของคนอื่น ๆ แล้ว อาจเป็นตัวผู้ปกครองเองที่ต้องชั่งใจว่าจะเลือกเดินทางใด เพราะเมื่อออกเดินแล้ว บางครั้งก็ยากที่จะถอนตัว หรือแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ที่สูญเสียไปให้กลับคืนเหมือนเดิมได้นั่นเอง
อ้างอิงข้อมูลจากเดลิเมล
เข้าชม : 510
|