ความหมายต่อโลก - "โอบามา" นั่งบัลลังก์ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาสมัย 2
ชัยชนะของ บารัก โอบามา ในศึกชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มหาอำนาจโลก ทำให้ผู้นำนานาประเทศส่งสารแสดงความยินดี พร้อมแสดงปฏิกิริยาด้านบวก ไม่ว่าจะเป็นชาติมหาอำนาจด้วยกันอย่าง จีน รัสเซีย อังกฤษ ฝรั่งเศส ยังรวมไปถึงประเทศในตะวันออกกลาง และเอเชีย
ความเข้าใจพื้นฐานคือการดำรงตำแหน่งสมัยที่สองของโอบามาทำให้เชื่อได้ว่าจะไม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบายมากนัก โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นอกเหนือจากถ้อยคำแสดงความยินดีอย่างเป็นทางการแล้ว ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจ
เช่น เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเครมลิน กล่าวว่า ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียโล่งใจมากที่โอบามาชนะการเลือกตั้ง เพราะหากเป็น มิตต์ รอมนีย์ จากพรรครีพับลิกัน อาจทำให้ต้องปรับยุทธศาสตร์ยกใหญ่ หลังจากเคยได้ยินนโยบายที่ชวนให้ไม่สบายใจว่า "สงครามเย็น" อาจกลับมาอีก
ส่วนจีน มีโพลของโกลเบิลไทมส์ และเว็บซิน่าเว่ยป๋อ ระบุว่า ชาวจีนร้อยละ 78-80 อยากให้โอบามาชนะการเลือกตั้ง เพราะไม่ชอบใจที่พรรค รีพับลิกันของรอมนีย์ส่งสัญญาณจะเป็นศัตรูมากกว่ามิตร
อย่างไรก็ตามในด้านเศรษฐกิจ นายจาง กัวฉิง นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสหรัฐกล่าวว่า ไม่ได้มองอนาคตในแง่ดีนัก เนื่องจากโอบามาเป็นนักปกป้องตลาดสหรัฐตัวยง และอาจจะเพิ่มแรงกดดันต่อจีนทั้งในด้านเศรษฐกิจและการเมือง
ยุทธศาสตร์ที่โอบามาประกาศหันกลับมาที่เอเชียยังเป็นเรื่องที่จีนไม่สบายใจอย่างยิ่ง เห็นได้ชัดในบทบาทที่แทรกซึมเข้ามาเนียนๆ ในศึกพิพาททางทะเลระหว่างจีนกับญี่ปุ่น และจีนกับชาติอาเซียน การก้าวขึ้นสู่สถานะมหาอำนาจที่สูงขึ้นของจีนปะทะกับสหรัฐ จะครองเกมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในโลกนี้เป็นหลัก ด้านอิหร่าน คู่อริของสหรัฐ ประธานาธิบดี มาห์มู้ด อาห์มาดิเนจัด หยิบเรื่องการทุ่มเงินสำหรับการหาเสียงและการเลือกตั้งของสหรัฐที่สูงกว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 180,000 ล้านบาท สูงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ว่าเป็น "สนามประลองของทุนนิยม" ก่อนแขวะขึ้นมาลอยๆ ว่า ขนาดเป็นประเทศชั้นแนวหน้าของประชาธิปไตย กลับให้เสียงส่วนน้อยมีอิทธิพลเหนือเสียงส่วนใหญ่ มีทั้งระบบทาส อาณานิคม และทำลายสิทธิที่กระทำต่อมนุษย์
ส่วน อัฟกานิสถาน ประเทศสมรภูมิสงคราม กลุ่มตาลิบันที่ถูกโค่นอำนาจด้วยฝีมืออเมริกา ออกแถลงการณ์ว่า "โอบามาต้องรู้ว่า อเมริกาแพ้สงครามในอัฟกานิสถาน ดังนั้นควรจะถอนทัพออกไปจากแดนศักดิ์สิทธิ์นี้ ไปดูแลประเทศตัวเองจะดีกว่า"
ในประเด็นนี้ สิ่งที่ประธานาธิบดีโอบามาต้องรีบทำก็คือ นำทหารที่เหลืออยู่ในสมรภูมิแห่งนี้กลับบ้านตามที่สัญญาไว้ และต้องคิดด้วยว่าจะเหลือทหารกี่นายไว้หลังจากปี 2557
เชื่อว่า บรรดาผู้นำเหล่าทัพอยากให้ค่อยๆ ถอนทหารออกมาทีละน้อย และคงเหลือไว้ 10,000 นาย แต่ฝ่ายบริหารคงอยากให้เร่งนำทหารกลับบ้าน และคงเหลือนาวิกโยธินและกองกำลังอื่นไว้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ด้าน ปากีสถาน ที่เป็นพันธมิตรมานาน แต่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เมื่อโดนกองทัพสหรัฐในยุคโอบามาส่งหน่วยซีลดอดเข้าประเทศไปสังหาร โอซามา บิน ลาเดน หัวหน้าเครือข่ายอัล ไคด้า เมื่อปีที่แล้ว ประธานาธิบดี อาซิฟ อาลี ซาร์ดารี กล่าวว่า มั่นใจถึงความสัมพันธ์กับอเมริกาจะเจริญก้าวหน้าต่อไป
แต่สำนักข่าวเอเอฟพีเสนอข่าวมุมขำขัน ว่า บรรดาพ่อค้าขายธงชาติดีใจอยู่เหมือนกันที่ โอบามาชนะ ด้วยความแค้นที่ชาวปากีสถานส่วนหนึ่งมีต่อนโยบายการใช้โดรนของสหรัฐรุกล้ำอธิปไตย จะทำให้ธงชาติสหรัฐขายดิบขายดีต่อไป เพราะผู้ประท้วงซื้อไปเผาได้เรื่อยๆ
ด้านสำนักข่าวบีบีซีรายงานวิเคราะห์ในหัวข้อ "โอบามาสมัยสอง มีความหมายต่อโลกอย่างไร"
ในส่วนของตะวันออกกลาง วิเคราะห์จากสุนทรพจน์ฉลองตำแหน่ง โอบามากล่าวกับ ชาวอเมริกันว่า "สงครามนานนับสิบปีกำลังจะจบลงแล้ว แต่หากเกิดสถานการณ์ปั่นป่วน การใช้กำลังทหาร หรือแม้แต่สงครามใหม่ ก็อาจต้องกลับคืนสู่แผนได้เช่นกัน"
สื่ออาหรับบางส่วนจึงเชื่อว่า ชัยชนะครั้งใหม่เปิดโอกาสให้ผู้นำสหรัฐแข็งแกร่งและแข็งกร้าวยิ่งขึ้น ทั้งในเรื่องซีเรีย ที่อาจใช้กำลังทหารเข้าไปแทรกแซง หรือปัญหานิวเคลียร์อิหร่านที่ต้องตัดสินใจว่า อเมริกาจะออกโรงเองหรือปล่อยให้อิสราเอลดำเนินการไป
ขณะที่ปัญหาศึกอิสราเอล-ปาเลสไตน์ โอบามาไม่ค่อยทำอะไรในสมัยแรก แต่สมัยสองนี้น่าลุ้นว่าจะเข้าไปมีบทบาทมากขึ้น
โดยรวมแล้ว แม้อเมริกาจะยิ่งใหญ่ด้านกองทัพ แต่อิทธิพลทางการเมืองต่อภูมิภาคนี้กลับลดลงไป กลุ่มคนรุ่นใหม่ของอาหรับที่ไม่ได้มองอเมริกาเป็นเพื่อน หากเป็นศัตรู กำลังมีอำนาจมากขึ้น
ปิดท้ายที่ยุโรป เชื่อว่าจะกอดคอไปด้วยกันกับอเมริกา ทั้งในด้านฟื้นเศรษฐกิจ และความร่วมมือบนเวทีโลก เพราะมีมิตรและศัตรูกลุ่มเดียวกัน
เข้าชม : 551
|