อ่านหนังสือให้ลูกฟัง ดีกับลูกอย่างไร?
เพราะการอ่านคือการเปิดโลกของความสุข และโลกของการเรียนรู้ที่มีมากมายไม่รู้จบ อ่านหนังสือให้ลูกฟังทุกวัน แล้วคุณจะพบความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นในครอบครัว!
ลูกเรียนรู้จากการฟังและการดู
ตาของเด็กจะได้มองภาพสวยๆ ไปพร้อมกับเรื่องราวที่ได้ฟังจากที่พ่อแม่เล่าหรืออ่าน ทำให้เด็กได้เรียนรู้ว่าภาพที่เห็นคืออะไร เรียกว่าอะไร มีรูปร่าง หน้าตาอย่างไร อยู่ที่ไหน ทั้งเรื่องที่ใกล้ตัวเด็ก เช่น ร่างกายของตัวเอง สัตว์ต่างๆ สี รูปร่าง รูปทรง หรือเรื่องที่ไกลตัวออกไปเรื่อยๆ
ลูกเกิดจินตนาการ
จากการคิดตามเนื้อเรื่องที่ได้ฟัง อาจเป็นเรื่องแฟนตาซีที่ไม่มีอยู่จริงก็ได้ ซึ่งไม่ใช่เรื่องไร้สาระ เพราะจินตนาการคือพื้นฐานสำคัญ ก่อนที่จะต่อยอดไปสู่การคิดหาข้อเท็จจริงอย่างเป็นเหตุเป็นผลในขั้นต่อไป
สมองของลูกถูกกระตึ้นให้ติดและเรียนรู้
เมื่อพ่อแม่เล่านิทานแสนสนุก และชวนคิดชวนถามให้ลูกตอบ กระตุ้นการใช้ความคิดชวนให้สนใจ อยากรู้อยากเห็น ยิ่งลูกคิดบ่อยๆ มากเท่าไร สมองของลูกก็จะยิ่งพัฒนามากขึ้นเท่านั้น
ลูกเกิดการเรียนรู้ภาษา
การใช้ภาษาหรือคำพูดของพ่อแม่ในการอ่านหนังสือให้ลูกฟัง ทั้งสำเนียงการพูด ภาษาที่หลากหลาย ภายใต้น้ำเสียงที่อ่อนโยน และเติมสีสันจังหวะจะโคนแบบต่างๆ ให้น่าสนใจ ลูกจะค่อยๆ จดจำสำนวนภาษาแบบต่างๆ เพิ่มคลังคำศัพท์ รู้จักการอ่านออกเสียงที่ถูกต้องตามพ่อแม่ นำไปสู่การเรียนรู้ภาษาจากประสาทสัมผัสทางหู ลูกจะเก็บคำที่ได้ยิน และเมื่อมีการชี้ตามคำในแต่ละหน้า จะทำให้เด็กคุ้นเคยกับสัญลักษณ์ตัวอักษรต่างๆ เมื่อถึงวัยเข้าโรงเรียน จะมีผลทางบวกอย่างมีนัยสำคัญต่อทักษะการอ่าน การเรียนรู้ เช่น ภาษา การคำนวณ การคิด มีแนวโน้มด้านผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนดีกว่าเด็กที่ไม่มีใครอ่านหนังสือให้ฟัง
ลูกมีความสุขที่ได้อยู่กับพ่อแม่
การอ่านหนังสือให้ลูกฟังก่อนนอนทุกคืนเป็นเวลาที่แสนสงบและแสนสุขระหว่างพ่อแม่ลูก ทำให้เกิดความผูกพันและสายสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น ซึ่งจะประทับอยู่ในใจของลูกไปจนโต สายสัมพันธ์ที่เหนียวแน่นอาจช่วยรั้งไม่ให้ลูกทำอะไรออกนอกลู่นอกทางจนยากจะแก้
ขอขอบคุณข้อมูล : สิ่งเล็กๆ ที่สร้างลูก - สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และ https://www.planforkids.com/readparentblog.php
รวบรวมและเรียบเรียงโดย : กานต์นภัส แสนยศ บรรณษรักษ์ห้องสมุดประชาชนอำเภอดอยสะเก็ด
เข้าชม : 498
|