กรุงเทพฯ 28 ก.ย. - นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานกรรมการมูลนิธิพลังงานเพื่อสิ่งแวดล้อม และกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันหลายประเทศโดยเฉพาะในสหภาพยุโรปมีความเข้มงวด และมีการกำหนดมาตรฐานผลกระทบสิ่งแวดล้อมในด้านต่างๆ ทำให้การทำธุรกิจยากขึ้น และต้องใช้ต้นทุนสูงขึ้น เช่น กรณีสายการบินต่างๆ ที่จะบินเข้าประเทศในยุโรป จะต้องถูกวัดมลพิษ ตั้งแต่ต้นทาง หากไม่สามารถทำได้ตามมาตรฐานที่กำหนด ก็อาจจะต้องจ่ายเงินเพื่อซื้อคาร์บอนเครดิตจากประเทศที่มีขาย เช่น จีน อินเดีย ซึ่งการกำหนดมาตรฐานดังกล่าวอาจจะทำให้เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ธรรม เกิดความได้เปรียบเสียเปรียบ
นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่าอยากจะเรียกร้องให้โครงการต่างๆ ในประเทศไทยที่เป็นโครงการด้านไบโอแก๊ส ที่สามารถขายคาร์บอนเครดิตได้ เร่งขออนุมัติใบอนุญาตจาก UNFCCC หรือหน่วยงานของสหประชาติที่มีหน้าที่พิจารณาใบอนุญาตเกี่ยวกับการขายคาร์บอนเครดิต เพราะปัจจุบันมีโครงการขายคาร์บอนเครดิตถึง 60 โครงการ แต่ได้รับใบอนุญาตเพียง 6 โครงการเท่านั้น ดังนั้นหากมีโครงการในประเทศที่ขายคาร์บอนเครดิตได้มากๆ ผู้ประกอบไทยที่ต้องการซื้อคาร์บอนเครดิต เช่น บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็จะเข้ามาซื้อคาร์บอนเครดิตในประเทศไทย แทนที่จะไปซื้อจากประเทศจีน หรืออินเดีย เพื่อให้การบินเข้าประเทศในสหภาพยุโรปสามารถดำเนินการต่อไปได้ โดยที่ไม่ต้องเสียค่าปรับ
กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย กล่าวว่า การบินไทยยังมีนโยบายที่จะนำน้ำมันเครื่องบินที่เป็นไบโอชีวภาพ หรือน้ำมันที่มีส่วนผสมของไบโอดีเซลให้มากขึ้น มาทดลองใช้นำร่องในเครื่องบินที่จะบินในเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ในปลายเดือนพฤศจิกายนนี้ หากพบว่ามีต้นทุนที่สามารถแข่งขันได้ และคุ้มค่าต่อการลงทุน การบินไทยก็อาจจะใช้น้ำมันชนิดนี้ในเส้นทางการบินอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย อย่างไรก็ตามน้ำมันชนิดนี้ยังไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ ต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งการบินไทยได้เสนอให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศึกษาเพื่อที่จะผลิตน้ำมันชนิดนี้ ซึ่งในแต่ละปีการบินไทยต้องใช้น้ำมันสำหรับเครื่องบินประมาณปีละ 3,000 ล้านลิตร ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่สุดของประเทศ หาก ปตท.ผลิตน้ำมันชนิดนี้ได้ การบินไทยก็จะเป็นผู้ใช้รายใหญ่.-สำนักข่าวไทย