บอระเพ็ด
ชื่อสมุนไพร บอระเพ็ด
ชื่ออื่นๆ/ชื่อท้องถิ่น จุ้งจาลิง, จุ่งจิง, เครือเขาฮอ (ภาคเหนือ), เจตมูลหนาม (หนองคาย), หางหนู (อุบลราชธานี), เถาหัวด้วน, ตัวเจตมูลยาน (สระบุรี)
ชื่อสามัญ Heart leaved moonseed
ชื่อวิทยาศาสตร์ Tinospora crispa (L.) Miers ex Hook.f. & Thomson
ชื่อพ้อง Tinospora tuberculata Miers, Tinospora rumphii Boerl.
วงศ์ Menispermaceae
ประโยชน์และสรรพคุณบอระเพ็ด
- แก้ไข้ทุกชนิด
- แก้พิษฝีดาษ
- เป็นยาขมเจริญอาหาร
- ช่วยย่อยอาหาร
- บำรุงน้ำดี
- บำรุงไฟธาตุ
- แก้โรคกระเพาะอาหาร
- บำรุงร่างกาย
- แก้สะอึก
- แก้มาลาเรีย
- เป็นยาขับเหงื่อ
- ช่วยดับกระหาย
- แก้ร้อนในดีมาก ทำให้เนื้อเย็น
- แก้อหิวาตกโรค
- แก้ท้องเสีย
- แก้ไข้จับสั่น
- แก้โลหิตพิการ
- เป็นยาพอกบาดแผล ทำให้เย็น
- บรรเทาอาการปวด
- ช่วยดับพิษปวดแสบปวดร้อน
- ช่วยพอกฝี
- แก้ฟกช้ำ
- แก้คัน
- แก้รำมะนาด
- แก้ปวดฟัน
- แก้เสมหะเป็นพิษ
- เป็นยาอายุวัฒนะ
น้ำสกัด หรือ น้ำต้มจากบอระเพ็ดสามารถใช้ฉีดพ่นกำจัด และป้องกันหนอนแมลงศัตรูพืช อาทิ หนอนใยผัก และเพลี้ยต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ส่วนลำต้น และใบของบอระเพ็ดสามารถใช้ผสมในอาหารสัตว์หรือให้สัตว์กินโดยตรง เพื่อให้สัตว์มีร่างกายแข็งแรง และรักษาโรคในสัตว์ ทั้งโค กระบือ สุกร ไก่ และอื่น ซึ่งชาวบ้านนิยมให้ไก่ชนกินในระยะก่อนออกชน นอกจากนี้ลำตัน และใบยังสามารถนำมาบด และใช้พอกศีรษะหรือสระผม สำหรับกำจัดเหาได้อีกด้วย
รูปแบบและขนาดวิธีใช้
รักษาอาการไข้ ใช้เถาบอระเพ็ดที่ไม่แก่หรืออ่อนจนเกินไป (เถาเพสลาก) ประมาณ 1- 1.5 ฟุต (2.5 คืบ) หรือเถา น้ำหนัก 30-40 กรัม โดยตำ เติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาน้ำดื่ม หรือ ต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน หรือบดเป็นผง ทำให้เป็นลูกกลอนรับประทานวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า เย็น
รักษาอาการเบื่ออาหาร: ใช้เถาที่โตเต็มที่ ประมาณ 1- 1.5 ฟุต (2.5 คืบ) น้ำหนัก หรือเถา 30-40 กรัม โดยตำ เติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาน้ำ หรือต้มกับน้ำ 3 ส่วน เคี่ยวให้เหลือ 1 ส่วน หรือ บดเป็นผง ทำให้เป็นลูกกลอนรับประทานวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหาร เช้า เย็น ใช้เป็นยาอายุวัฒนะ ด้วยการใช้บอระเพ็ด / เมล็ดข่อย / หัวแห้วหมู / เมล็ดพริกไทย / เปลือกต้นทิ้งถ่อน / เปลือกต้นตะโกนา ในสัดส่วนเท่ากันนำมาบดเป็นผง ปั้นเป็นยาลูกกลอนเท่าปลายนิ้วก้อย รับประทานก่อนนอนครั้งละ 2-3 เม็ด หรือ จะนำเถาบอระเพ็ดมาหั่นตากแห้งแล้วนำมาบดให้เป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนก็ได้ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด ด้วยการใช้เถาสดที่โตเต็มที่ตากแห้งแล้วบดเป็นผง นำมาชงน้ำร้อนดื่มครั้งละ 1 ช้อน เช้าและเย็นแก้โรคกระเพาะอาหารด้วยการใช้บอระเพ็ด 5 ส่วน / มะขามเปียก 7 ส่วน / เกลือ 3 ส่วน / น้ำผึ้งพอควร นำมาคลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วรับประทานก่อนอาหาร 3 เวลานำทุกส่วนของบอระเพ็ด (เถา,ใบ,ราก) มาบดแล้วใช้ประคบฝี เพื่อลดน้ำหนอง,ลดอาการปวดบวม หรือ แผล(สำหรับห้ามเลือด)
ข้อแนะนำและข้อควรระวัง
- ส่วนที่นิยมนำเถาบอระเพ็ดมาใช้ทำเป็นยาจะคือส่วนของ “เถาเพสลาก” เพราะมีลักษณะไม่แก่หรืออ่อนเกินไปนัก และมีรสชาติขมจัด แต่ถ้าเป็นเถาแก่จะแตกแห้ง รสเฝื่อน ไม่ขม หรือถ้าอ่อนเกินไปก็จะมีรสไม่ขมมาก
- การศึกษาในอาสาสมัครสุขภาพดี 12 คนที่กินบอระเพ็ดในขนาด 1 กรัม วันละ 3 ครั้ง นาน 8 สัปดาห์ พบแนวโน้มระดับเอนไซม์ในตับเพิ่มขึ้นแสดงว่าน่าจะก่อให้เกิดพิษต่อตับ
- หากนำบอระเพ็ดมาใช้และพบอาการผิดปกติของการทำงานตับและไต ควรหยุดการใช้
- ห้ามใช้ในผู้ที่มีภาวะเอนไซม์ตับบกพร่อง หรือผู้ป่วยที่มีประวัติเป็นโรคตับหรือโรคไต
- สมุนไพรบอระเพ็ดสำหรับการรับประทานในส่วนของรากอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอาจมีผลต่อหัวใจ เนื่องจากเป็นยารสขม สิ่งที่ต้องระวังก็คือไม่ควรใช้ติดกันต่อเนื่องเกิน 1 เดือน ถ้าหากจำเป็นต้องใช้ในเดือนถัดไปก็ควรเว้นระยะเวลา 1-2 สัปดาห์เป็นอย่างน้อยเพื่อให้ร่างกายสามารถปรับสภาพได้ก่อน ถ้าใช้ไปแล้วมีอาการมือเท้าเย็น แขนขาหมดเรี่ยวแรงก็ควรหยุดรับประทาน
เข้าชม : 364
|