[x] ปิดหน้าต่างนี้
 
 
 


เนื้อหา : เรื่องเด่นวันนี้
หมวดหมู่ : ข่าวเด่น
หัวข้อเรื่อง : วันที่9มิถุนายน

อังคาร ที่ 9 เดือน มิถุนายน พ.ศ.2563


 

9 มิถุนายน วันอานันทมหิดล
วันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ร.8

ซึ่งเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๙๘ และด้วยความสำนึกในพระเมตตาธิคุณและพระมหากรุณาธิคุณอันมีเป็นอเนกประการ
ปวงชนชาวไทยจึงได้ถือเอาวันที่ ๙ มิถุนายน ของทุก
9 มิถุนายน ของทุกปี ถือเป็นอีกวันสำคัญของไทย
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล ผู้ทรงให้กำเนิดวงการแพทย์ศาสตร์ ร่วมน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน
และอ่านประวัติความเป็นมาของวันอานันทมหิดลได้ดังต่อไปนี้ 


9 มิถุนายน วันอานันทมหิดล ผู้ให้กำเนิดวงการแพทย์ศาสตร์
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระราชสมภพ เมื่อวันอาทิตย์ขึ้น 2 ค่ำ เดือน 11 ปีฉลุ ตรงกับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2468 ณ เมือง ไฮเดเบอร์ก ประเทศเยอร์มัน ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 2 ในสมเด็จพระมหิตลาธิเบศรอดุลยเดชวิกรมพระบรมราชนก และ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี พระองค์ได้ทรงศึกษาจากต่างประเทศ และได้เสด็จนิวัตเมืองไทยบ้าง เพราะเนื่องจากอยู่ในระหว่างการศึกษา
ภายหลังการปกครองมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อปี พ.ศ. 2475 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงละราชสมบัติ จึงมีการลงมติเห็นชอบอัญเชิญพระวรวงศ์เธอพระองคเจ้าอานันทมหิดล ขึ้นครองราชย์สทบราชสันติวงศ์เป็น พระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 8 แห่งพระบรมราชจักรีวงศ์
โดยทรงพระนามว่า “สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล” เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2477 ซึ่งคณะนั้นพระองค์มีพระชนมายุเพียง 8 พรรษา เท่านั้น และประทับอยู่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ จึงต้องทรงมีคณะผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เพื่อทำการบริหารแผ่นดินแทนจนกว่าพระองค์จะทรงบรรลุนิติภาวะ

เสด็จนิวัติพระนคร
ในระหว่างการศึกษาประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็จะเสด็จนิวัตกลับเมืองไทย เพื่อกลับมาดูแลทุกข์สุขของประชาราชฏรษ์ พระองค์เสด็จนิวัติพระนครครั้งแรกภายหลังทรงราชย์เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 จนพระองค์พระชนมายุได้ 21 พรรษา ได้เสด็จกลับนิวัตเมืองไทยครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2488
เดิมทรงตั้งพระราชหฤทัยจะประทับอยู่เพียง 1 เดือนเท่านั้น แต่เนื่องจากทรงมีพระราชกรณียกิจมากมาย ในฐานะประมุขของประเทศ พระองค์ทรงเลื่อนเวลาเสด็จกลับสวิตเซอร์แลนด์ออกไป ระหว่างที่พระองค์ประทับอยู่ในพระนคร เมื่อคราวเสด็จนิวัตกลับเมืองไทยครั้งที่ 2 พระองค์เสด็จสวรรคต เนื่องจากถูกพระแสงปืน ณ ห้องบรรทมในพระที่นั้งบรมพิมาน เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 หลังจากเสวยราชสมบัติเพียง 12 ปี เท่านั้น

พระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 8 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล

 การปกครอง ..
พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนิน ไปในพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2489 และเปิดประชุมสภาผู้แทนในวันที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2489 นอกจากนี้ ยังเสด็จพระราชดำเนินทรงเยี่ยมราษฎรในจังหวัดต่าง ๆ และทรงเยี่ยมชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นครั้งแรก ณ สำเพ็ง พระนคร พร้อมด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ซึ่งเป็นช่วงที่เกิดความขัดแย้งกันระหว่างชาวไทยและชาวไทยเชื้อสายจีน จนเกือบเกิดสงครามกลางเมือง
เมื่อพระองค์ทรงทราบเรื่อง มีพระราชดำริว่า หากปล่อยความขุ่นข้องบาดหมางไว้เช่นนี้ จะเป็นผลร้ายตลอดไป จึงทรงตัดสินพระทัยเสด็จพระราชดำเนินสำเพ็ง ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 4 ชั่วโมง และพระองค์ทรงพระราชดำเนินด้วยพระบาทเป็นระยะประมาณ 3 กิโลเมตร การเสด็จพระราชดำเนินสำเพ็งในครั้งนี้จึงเป็นการประสานรอยร้าวที่เกิดขึ้นให้หมดไป

ภาพพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ
เจ้าฟ้าภูมิพลอดุลยเดช เสด็จเยี่ยมชาวไทยเชื้อสายจีนเป็นครั้งแรก ณ สำเพ็ง พระนคร เมื่อ พ.ศ. 2489
การศาสนา
ในการเสด็จนิวัติพระนครครั้งแรกนั้น พระองค์ได้ประกอบพิธีทรงปฏิญาณตนเป็นพุทธมามกะ ท่ามกลางมณฑลสงฆ์ในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดารามเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2481 นอกจากนี้ ยังเสด็จพระราชดำเนินไปทรงนมัสการพระพุทธรูปในพระอารามที่สำคัญ เช่น วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนารามราชวรวิหาร วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร และวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร โดยเฉพาะที่วัดสุทัศนเทพวรารามราชวรมหาวิหารนั้น พระองค์เคยมีพระราชดำรัสกล่าวว่า “ที่นี่สงบเงียบน่าอยู่จริง” ดังนั้น เมื่อพระองค์เสด็จสวรรคต จึงได้นำพระบรมราชสรีรางคารของพระองค์มาประดิษฐาน ณ วัดแห่งนี้
พระองค์ยังทรงตั้งพระราชหฤทัยว่าจะผนวชในพระพุทธศาสนา โดยได้มีพระราชหัตเลขาถึงสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เมื่อวันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2489 ทรงขอสังฆราชานุเคราะห์ในการศึกษาตำราทางพระพุทธศาสนาเพื่อใช้ในการเตรียมพระองค์ในการที่จะอุปสมบท แต่ก็มิได้ผนวชตามที่ตั้งพระราชหฤทัยไว้ นอกจากนี้ยังได้พระราชทานพระราชทรัพย์บำรุงวัดวาอาราม กับพระราชทานพระบรมราชูปถัมภ์แก่ศาสนาอื่นตามสมควร
การศึกษา
พระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลที่ 8 ในคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ในการเสด็จนิวัติพระนครในครั้งที่ 2 พระองค์ทรงได้ประกอบพระราชกรณียกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาของประเทศ โดยเสด็จพระราชดำเนินทอดพระเนตรกิจการของหอสมุดแห่งชาติ รวมทั้ง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมสถานศึกษาหลายแห่ง เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนเทพศิรินทร์ ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ทรงศึกษาขณะทรงพระเยาว์
นอกจากนี้ พระองค์ยังได้เสด็จพระราชดำเนินพระราชทานปริญญาบัตรเป็นครั้งแรกของพระองค์ ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2489 และอีกครั้งที่ หอประชุมราชแพทยาลัย ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ เมื่อวันที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2489 โดยในการพระราชทานปริญญาบัตรครั้งนี้ มีพระราชปรารภให้มีการผลิตแพทย์เพิ่มมากขึ้น เพื่อให้เพียงพอที่จะช่วยเหลือประชาชน โรงเรียนแพทย์แห่งที่ 2 จึงได้ถือกำเนิดขึ้นที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งในปัจจุบัน คือ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

หลังจากนั้น ในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2489 พระองค์ทรงหว่านข้าว ณ แปลงสาธิต ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งถือเป็นพระราชกรณียกิจสุดท้าย ก่อนเสด็จสวรรคต

ภาพรัชกาลที่ 8 ฉลองพระองค์ชุดนักเรียนโรงเรียนเทพศิรินทร์


พระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล




วันอานันทมหิดล
ในฐานะเราปวงชนชาวไทย จึงควรรำลึกถึงพระเมตตาธิคุณและมหากรุณาธิคุณ อันเป็นอเนกประการ จึงร่วมใจ ถือเอาวันที่ 9 มิถุนายน ของทุกปี เป็น “วันอานันทมหิดล” ในปี พ.ศ. 2528 สมาคมศิษย์เก่าแพทย์จุฬาลงกรณ์ ได้รวบรวมทุนบริจาค จากทุกรุ่นมาจัดสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ขึ้นไว้หน้าตึกอานันทมหิดล คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้ทรงบันดาลให้เกิดคณะแพทย์ศาสตร์ และเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศให้ประชาชนได้รำลึกถึงพระองค์ท่านสืบไปอีกด้วย





 


เข้าชม : 890


ข่าวเด่น 5 อันดับล่าสุด

      ส่งเสริมการอ่านสารานุกรมไทย 16 / มี.ค. / 2565
      ปลูกต้นไม้เฉลิมพระเกียรติ 11 / ส.ค. / 2564
      12สิงหาคม2564 6 / ส.ค. / 2564
      วันสำคัญของไทย 29 / ก.ค. / 2564
      ความรู้เรื่อง โควิด 19 / ก.ค. / 2564