ขมิ้นชัน (Khamin chan : Turmeric)
ชื่อท้องถิ่น : ขมิ้นชัน (กลาง) ขมิ้นหัว ขมิ้นแกง ขมิ้นไข (เหนือ) หมิ้น ขี้มิ้น (ใต้) สะยอ (แม่ฮ่องสอน)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curcuma longa Linn.
วงศ์ : ZINGIBERACEAE
ลักษณะทั่วไป : เป็นไม้ล้มลุก มีลาต้นใต้ดินประเภทไรโซม (Rhizome) ลักษณะเป็นเหง้าแง่งค่อนข้างกลม
มีแง่งนิ้วแตกออก 2 ข้าง เป็นข้อปล้องสั้น ๆ เหง้าอ่อนสีเหลืองอ่อนออกขาว แก่สีน้าตาลอมส้ม เลื่อมมันดารงชีวิตอยู่ได้ข้ามปีหรือหลายปี ส่วนลาต้นเหนือดินกลมแบนกาบใบใหญ่หนาเรียงสลับซ้อนทับขึ้นไป และแตกต้นใหม่หลายต้นเป็นกอสูง เจริญได้ดีในฤดูฝนและโทรมแห้งตายในฤดูหนาว ใบเป็นใบเดี่ยวขนาดใหญ่อยู่ที่ปลายกาบ ดอกเป็นช่อเชิงลดตั้งตรงพุ่งขึ้นมาจากกลางลาต้นสีขาว รากส่วนใหญ่จะหนาแน่นบริเวณโคนลาต้น พันธุ์ที่นิยมปลูก : ขมิ้นสีทอง ขมิ้นด้วง ขมิ้นแดงสยาม พันธุ์ที่กรมวิชาการเกษตร แนะนาได้แก่ พันธุ์ตรัง 1 และพันธุ์ตรัง 2
การปลูก : เจริญได้ดีในดินร่วนอุดมสมบูรณ์สูงชอบอากาศค่อนข้างร้อนและมีความ
ชุ่มชื้นในเวลากลางคืน ช่วงฤดูการปลูก ควรปลูกในช่วงต้นฤดูฝน ประมาณเดือน
เมษายนถึงพฤษภาคม ขยายพันธุ์โดยใช้เหง้าหัวหรือแง่งนิ้วที่มีตา 2 - 3 ตา
ดูตามขั้นตอนการปลูกที่แนบ
การเก็บเกี่ยว : ระยะเก็บเกี่ยวที่เหมาะสมและมีสารสาคัญสูงเมื่ออายุ 9 – 10 เดือนขึ้นไป
การใช้ประโยชน์ : ใช้เป็นเครื่องเทศปรุงอาหาร แต่งสี กลั่นน้ามันหอมระเหยเพื่อประกอบเครื่องสาอาง ผลิตภัณฑ์สปา เป็นส่วนผสมหลักในลูกประคบ ทาสีย้อมผ้า ในทางการเกษตรใช้ไล่และกาจัดแมลง
สารสาคัญและสรรพคุณ : เหง้าขมิ้นมีองค์ประกอบหลักที่สาคัญอยู่ 2 ชนิด
คือ น้ามันหอมระเหยหรือ termeric oil และสารที่ให้สีเหลือง curcuminoid
ภูมิปัญญาหมอพื้นบ้าน : เหง้าสด เผาไฟล้างสะอาดตาผสมน้าปูนใส กินแก้ท้องร่วง บิด น้าคั้นเหง้าสด
ทาแก้ผดผื่นคัน ลดการอักเสบของแผลถลอก บดผง ปั้นลูกกลอน แก้โรคกระเพาะ ปวดตามข้อ เป็นส่วนผสมหลักในลูกประคบ ผงทาแก้คันและบารุงผิว
10 คุณประโยชน์และสรรพคุณของขมิ้นชัน
ขมิ้นชัน มีสารเคอร์คูมินอยด์ (Curcuminoid) พบได้ในพืชมีเหง้าและพืชวงศ์ขิง มีสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดอาการอักเสบ และลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือด ทำให้มีการนำขมิ้นชันมาประยุกต์ใช้ในอาหารและยาอย่างแพร่หลาย ซึ่งมีประโยชน์และสรรพคุณ ดังนี้
1. ล้างพิษตับ
ขมิ้นชันมีสรรพคุณช่วยขับพิษที่สะสมในตับ เนื่องจากมีฤทธิ์ป้องกันตับอักเสบ ช่วยบำรุงตับ และฟื้นฟูตับ โดยมีการใช้ขมิ้นชันทดลองรักษาโรคตับแข็งในหนู ผลปรากฏว่าอาการไม่ลุกลามเพิ่ม ทำให้นิยมใช้เป็นสมุนไพรยาที่ช่วยฟื้นฟูสุขภาพและล้างพิษออกจากตับ
2. รักษาโรคผิวหนังเรื้อรัง
ขมิ้นชันสามารถใช้รักษาโรคที่เกี่ยวกับผิวหนังได้ เช่น โรคผื่นคัน กลาก เกลื้อน ผิวหนังอักเสบจากอาการแพ้ คนไทยสมัยก่อนใช้เหง้าสดของขมิ้นชันมาฝนและบดให้ละเอียด ก่อนจะนำไปทาบริเวณที่มีอาการคัน แต่ปัจจุบันสามารถใช้ผงขมิ้นชันสำเร็จรูปผสมน้ำเปล่าหรือน้ำมันมะพร้าว นำไปทาบริเวณที่อักเสบหรือคันได้
3. แก้อาการท้องร่วง
ใครที่กินของผิดสำแดงเข้าไปแล้วเกิดอาการท้องร่วง สามารถหาขมิ้นชันในครัวมาใช้เป็นยาได้ โดยนำมาล้างให้สะอาด ปอกเปลือกและหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ นำไปตำพร้อมผสมน้ำเปล่า หลังจากนั้นคั้นเฉพาะน้ำให้ได้สัก 1 ถ้วยตวง แบ่งกินคราวละ 2 ช้อนโต๊ะ จะช่วยสร้างสมดุลให้ระบบขับถ่ายและระบบย่อยอาหาร
4. รักษาแผลในกระเพาะอาหาร
ขมิ้นชันมีฤทธิ์ในการรักษาอาการอักเสบ จึงสามารถช่วยรักษาแผลในกระเพาะอาหารให้หายเร็วขึ้น นอกจากนี้หากหั่นขมิ้นชันผสมกับน้ำผึ้ง จะช่วยบรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และจุกเสียดแน่น เรียกว่าเป็นสมุนไพรที่มอบประโยชน์ให้คนกินอย่างครบสูตร ทั้งในรูปแบบอาหารและรูปแบบยา
5. ชะลอการแก่ก่อนวัย
เนื่องจากขมิ้นชันออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ จึงถูกนำมาสกัดเป็นยาเสริมอาหารที่ใช้บำรุงร่างกาย ป้องกันโรค ป้องกันการเสื่อมโทรมของเซลล์ และป้องกันร่างกายไม่ให้เสื่อมไปตามวัย ถือเป็นสรรพคุณด้านความงามที่น่าจะถูกใจใครหลายคน
6. รักษาริดสีดวง
สำหรับผู้ที่เป็นริดสีดวงทวารและมีแผลบริเวณทวารหนัก ให้ใช้ผงขมิ้นทาหัวริดสีดวง จะช่วยสมานแผลให้แห้งและหายเร็วขึ้น เพราะขมิ้นชันจะช่วยลดการอักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อโรค และทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลกระชับเร็วขึ้น
7. แก้พิษแมลงกัดต่อย
หากถูกแมลงกัดจนเป็นแผล มีอาการบวมแดง สามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ผงขมิ้นชันผสมกับน้ำมันมะพร้าว แล้วนำไปเคี่ยวบนไฟ จะได้น้ำมันนวดสำหรับทาแก้พิษแมลงกัดต่อย หรือจะนำผงขมิ้นชันไปผสมกับน้ำปูนใสเพื่อนำมาพอกแผลก็ได้เช่นกัน
8. ป้องกันโรคข้อเข่าอักเสบ
ในผู้สูงอายุนิยมใช้ขมิ้นชันรักษาอาการข้อตึง ปวดเมื่อยตามข้อเข่า ซึ่งอาจจะเป็นไปตามวัยหรือพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน แต่ขมิ้นชันสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดในโรคข้อเข่าเสื่อมได้ โดยมีการนำมาใช้ทดแทนยาแผนปัจจุบันอย่างแพร่หลาย
9. ลดระดับไขมันในเส้นเลือด
สารไฟโตสเตอรอล (Phytosterols) ที่อยู่ในพืชธรรมชาติอย่างขมิ้นชันจะช่วยยับยั้งคอเลสเตอรอล มีฤทธิ์ในการลดไขมันในเส้นเลือด ป้องกันความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดอุดตันและโรคหัวใจ
10. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
ขมิ้นชันสามารถช่วยปรับสมดุลและสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยเฉพาะในปัจจุบันมีปัญหามลพิษฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ส่งผลกระทบต่อร่างกาย ทำให้เป็นภูมิแพ้ได้ง่าย จึงนิยมกินขมิ้นชันเพื่อเป็นตัวช่วยเสริมร่างกายให้แข็งแรงต่อมลพิษ
ขมิ้นชันแคปซูล สารสกัดจากธรรมชาติ
ขมิ้นชัน เป็นสมุนไพรที่ได้รับการขึ้นทะเบียนรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา รวมถึงได้ขึ้นบัญชียาหลักแห่งชาติ ทำให้ได้รับความนิยมในการกินทดแทนยาแผนปัจจุบัน โดยทั่วไปถือว่าเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากใช้ประกอบอาหารอยู่แล้ว แต่ในปัจจุบันมีการนำขมิ้นชันมาสกัดให้อยู่ในรูปแบบแคปซูลเพื่อให้สะดวกในการรับประทาน บ้างก็อยู่ในรูปแบบอาหารเสริม ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์การใช้ หากจะซื้อ "ขมิ้นชันแคปซูล" ก็ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ และมีฉลากรับรองชัดเจน
*อย่างไรก็ตาม การกินขมิ้นชันแคปซูลติดต่อกันนานๆ ก็อาจทำให้ร่างกายมีสารตกค้างได้ ควรจำกัดในปริมาณที่เหมาะสมพอดี และหากจะกินเพื่อรักษาโรค ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ เนื่องจากสรรพคุณในขมิ้นชันมีผลกระทบข้างเคียงต่อผู้ป่วยบางกลุ่ม เช่น เด็ก สตรีมีครรภ์ ผู้ที่เป็นท่อน้ำดีอุดตัน และนิ่วในถุงน้ำดี
สูตรพอกหน้าใส เนรมิตความสวยด้วยผงขมิ้นชัน
สมุนไพรไทยถูกใช้เป็นเครื่องประทินผิวเพื่อบำรุงรักษาผิวมาตั้งแต่สมัยโบราณ โดยเฉพาะขมิ้นชันที่ได้รับความนิยมในการนำมาพอกหน้า คืนความนุ่มชุ่มชื้นให้ผิวหน้า ที่สำคัญยังมีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเป็นสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่มีสารเคมีเจือปน สำหรับสูตรพอกหน้าด้วยขมิ้นชันที่สามารถทำได้ง่ายๆ ที่บ้าน ได้แก่
- สูตรผงขมิ้นชัน ผสมน้ำผึ้ง
ให้ใช้ผงขมิ้นประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ ผสมกับน้ำผึ้งอีก 2 ช้อนโต๊ะ หลังจากนั้นนำมาพอกให้ทั่วใบหน้า หรือจะเลือกแต้มเฉพาะบริเวณที่มีแผลอักเสบจากสิวก็ได้ ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาทีแล้วค่อยล้างออก ขมิ้นชันจะช่วยสมานแผล ในขณะที่น้ำผึ้งจะช่วยคืนความชุ่มชื้นให้ผิว
- สูตรผงขมิ้นชัน ผสมน้ำมะนาว
บีบน้ำมะนาวสัก 1 ช้อนโต๊ะ นำไปผสมกับผงขมิ้นชัน 2 ช้อนโต๊ะ คนให้เข้ากัน หากต้องการให้เจือจางสามารถเติมน้ำเปล่าสะอาดลงไปได้ ก่อนจะทาลงบนใบหน้า นวดเบาๆ น้ำมะนาวจะช่วยผลัดเซลล์เก่าให้ผิวเปล่งปลั่ง ทิ้งไว้สัก 10 นาทีแล้วค่อยล้างออก
ใช้โยเกิร์ตธรรมชาติ 1 ช้อนโต๊ะ ผสมให้เข้ากับผงขมิ้นชัน 2 ช้อนโต๊ะ นำมาพอกบนใบหน้า ทิ้งไว้ 15-20 นาที แล้วจึงล้างออก จะช่วยบำรุงให้ผิวหน้าเนียนนุ่ม และช่วยลดความหมองคล้ำ
"ขมิ้นชัน" สมุนไพรใกล้ตัวที่อยู่คู่ครัวทุกบ้านจะมีสรรพคุณมากมายขนาดนี้ อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายรูปแบบ นับว่าเป็นของขวัญและยาจากธรรมชาติที่เราไม่ควรมองข้าม
ขอบคุณที่มา:กระทรวงสาธารณสุข
ขอบคุณที่มา:กรมส่งเสริมการเกษตร
เข้าชม : 1373
|