ชะพลู หรือ ช้าพลู[2] (ชื่อวิทยาศาสตร์: Piper sarmentosum Roxb. หรือ Piper lolot C.DC.) เป็นพืชในวงศ์ Piperaceae มักสับสนกับพลู[3]
นอกจากชื่อ ชะพลู, ช้าพลู ในภาษาไทยแล้ว ในภาษาอังกฤษไม่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการ แต่อาจถูกเรียกในชื่อ wild betel, ในภาษาลาวเรียกว่า ຜັກອີ່ເລີດ (ผักอีเลิด), ภาษามลายูเรียก Pokok Kaduk, ภาษาอินโดนีเซียเรียก Merica lolot[5], ภาษาเขมรเรียก ចាព្លូ (ชาพลู หรือ ជីរភ្លូ ชีพลู), ภาษาเวียดนามเรียก lá lốt (ลาโล้ต), ภาษาจีนเรียก 假蒟 (เจี๋ยจู่)[6], ภาษาจีนกวางตุ้งเรียก 蛤蔞 (กับเหล่า)
ชะพลูมีชื่อพื้นเมืองอื่น ๆ ในประเทศไทยอีกคือ ทางภาคเหนือเรียกว่า "ผักปูนา", "ผักพลูนก", "พลูลิง", "ปูลิง", "ปูลิงนก" ทางภาคกลาง เรียกว่า "ช้าพลู" ทางภาคอีสานเรียกว่า "ผักแค", "ผักปูลิง", "ผักนางเลิด", "ผักอีเลิด" และ ทางภาคใต้เรียกว่า "นมวา"
ลักษณะ
ใบมีลักษณะคล้ายรูปหัวใจรูปทรงคล้ายกับใบพลู แต่มีขนาดใบเล็กกว่า มีสีเขียวเข้มเป็นใบเดี่ยว รสชาติเผ็ดอ่อน ๆ ดอกออกบริเวณปลายยอด มีสีขาวอัดแน่นกันเป็นทรงกระบอกขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายดีปลีแต่สั้นกว่าชะพลูพบในเขตร้อนของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย และตอนใต้ของจีน และไกลถึงหมู่เกาะอันดามัน[7]
แต่ใบรสไม่จัดเท่าพลูและมีขนาดเล็กกว่า ชะพลูเป็นพันธุ์ไม้ที่ชอบพื้นที่ลุ่ม มีความชื้น ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการปักชำ โดยการเลือกกิ่งที่มีใบอ่อนและใบแก่ เด็ดใบแก่ออกและนำไปปักชำได้
"Piper lolot (lolot)" ปัจจุบันทราบว่าเป็นสปีชีส์เดียวกันกับ Piper sarmentosum โดย lolot ได้รับการปลูกเพื่อใช้ใบประกอบในอาหารของลาว และเวียตนาม เช่นใช้สำหรับห่อเนื้อย่าง thịt bò nướng lá lốt (ถิกบ่อเหนืองลาโล้ต) ในเวียดนาม[4]
การใช้ประโยชน์
ในใบชะพลูมีสารบีตา-แคโรทีนสูงมาก ใบนำมารับประทานกับเมี่ยงคำ นำมาแกงใส่กะทิ ข้าวยำ ห่อหมก หรือเป็นผักจิ้มน้ำพริก ทางภาคใต้ใส่ในแกงกะทิหอยขม แกงคั่วปู[8]ในจังหวัดจันทบุรีใส่ในแกงป่าปลา[9] ในใบมีออกซาเลตสูง จึงไม่ควรรับประทานมากเป็นประจำ
ชะพลูเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยา ดอกทำให้เสมหะแห้ง ช่วยขับลมในลำไส้ รากขับเสมหะให้ออกมาทางระบบขับถ่าย ขับลมในลำไส้ ทำให้เสมหะแห้ง ต้นขับเสมหะในทรวงอก ใบมีรสเผ็ดร้อน ทำให้เจริญอาหาร ขับเสมหะ ใบ ต้น และดอกใช้ขับเสมหะ รากใช้ขับลม น้ำต้มทั้งต้นช่วยลดน้ำตาลในเลือดของกระต่ายที่เป็นเบาหวานได้[10]
ขอขอบคุณที่มา
แหล่งอ้างอิง : วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เข้าชม : 968
|