๒๕ เมษายน
#วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
๒๕ เมษายน วันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราชร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราชผู้ทรงกอบกู้อิสรภาพของไทย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวันที่คนไทยควรร่วมน้อมรำลึกถึง ...
#ขอน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณสมเด็จพระนเรศวรมหาราช วีรกษัตริย์ไทย และบูรพกษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ตลอดจนเหล่าบรรพชนของไทยที่สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญสละเลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อปกป้องรักษาผืนแผ่นดินไทยเข้าร่วม#วันกองทัพไทยถือเอาวันที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยเหนือพระมหาอุปราชา ซึ่งตรงกับวันจันทร์ เดือน 2 แรม 2 ค่ำ จุลศักราช 954 หรือพุทธศักราช 2135 ผ่านมาแล้ว 428 ปี เป็นวันกองทัพไทย เรียกอีกอย่างว่า "วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช" หรือ "วันยุทธหัตถี"
#วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่ประชาชนชาวไทยควรตระหนักในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระองค์ทรงเสียสละ ต่อสู้กับข้าศึกศัตรูแม้ในยามที่ทรงประชวรหนัก ก็ยังไม่ห่วงพระวรกายยังคงทำหน้าที่ของนักรบผู้ยิ่งใหญ่ที่ไม่ยอมให้ศัตรูมารุกรานบ้านเมือง จนกระทั่งสวรรคตในสนามรบ จึงได้ทำให้เหล่าทวยราษฎร์ต่างเทิดทูนถึงพระมหากรุณาธิคุณ เราชาวไทยควรรำลึกถึงพระองค์ท่าน ที่ได้ทรงเสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไทยของเราให้ได้อยู่มาจนถึงทุกวันนี้
ความหมายของวันสมเด็จพระนเรศวร
วันสมเด็จพระนเรศวรคือ วันคล้ายวันสวรรคตของพระนเรศวรมหาราช ซึ่งตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 สาเหตุเพราะ สมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ พระอาการหนัก สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จฯ มาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวรก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษา
วันสมเด็จพระนเรศวร
สมเด็จพระนเรศวรก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันจันทร์ ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง ตรงกับวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 สิริพระชนมพรรษา 49 พรรษาเศษ สิริดำรงราชสมบัติ 14 ปีเศษสมเด็จพระเอกาทศรถจึงได้อัญเชิญพระบรมศพสมเด็จพระนเรศวรกลับกรุงศรีอยุธยา ซึ่งแผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นสุขว่างจากการศึกสงคราม เป็นเวลาถึง 100 ปีเศษ ซึ่งที่ผ่านมาสมเด็จพระมหากษัตริย์ผู้ทรงมีพระราชกรณียกิจ เป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองด้วยการทรงอุทิศพระวรกายทำราชการสงครามเกือบตลอดรัชสมัย ซึ่งพระบรมเดชานุภาพอันยิ่งใหญ่ของพระองค์นั้นแผ่ไพศาล ทำให้อริราชศัตรูเกิดความยำเกรงในอำนาจ
ซึ่งก่อนหน้าที่สมเด็จพระนเรศวรจะสวรรคต สมเด็จพระนเรศวร กับสมเด็จพระเอกาทศรถ เสด็จยกกองทัพออกจากพระนคร เมื่อวันพฤหัสบดี แรม 8 ค่ำ เดือนยี่ ปีมะโรง พ.ศ.2148 เสด็จโดยกระบวนเรือ แล้วยกกองทัพบกไปทางเมืองกำแพงเพชรสู่เมืองเชียงใหม่ ครั้นเสด็จถึงเมืองเชียงใหม่ก็หยุดพักจัดกระบวนทัพอยู่หนึ่งเดือน แล้วให้กองทัพสมเด็จพระเอกาทศรถยกไปทางเมืองฝาง ส่วนกองทัพหลวงยกไปทางเมืองหางทรงตั้งค่ายหลวงประทับอยู่ที่ทุ่งแก้ว ต่อมาสมเด็จพระนเรศวรทรงพระประชวรเป็นหัวระลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์ แล้วกลายเป็นบาดทะพิษพระอาการหนัก จึงโปรดให้ข้าหลวงรีบไปเชิญเสด็จสมเด็จพระเอกาทศรถมาเฝ้า สมเด็จพระเอกาทศรถเสด็จฯ มาถึงได้ 3 วัน สมเด็จพระนเรศวรก็เสด็จสวรรคต
ประวัติพระนเรศวรมหาราช
พระนเรศวรมหาราช มีพระนามเดิมว่าพระองค์ดำ พระราชสมภพเมื่อ พ.ศ.2098 ที่เมืองพิษณุโลกทรงมีพระเชษฐภคิณีคือพระสุพรรณกัลยาทรงมีพระอนุชาคือสมเด็จพระเอกาทศรถ(องค์ขาว) และทรงเป็นพระราชนัดดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัย ซึ่งพระองค์ดำ เป็นพระราชโอรสในสมเด็จพระมหาธรรมราชาและพระวิสุทธิกษัตริย์ (พระราชธิดาของสมเด็จพระศรีสุริโยทัยและสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ )
สมเด็จพระนเรศวร ราชาธิราช เสด็จขึ้นครองราชย์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ.2133 ขณะพระชนมพรรษา 35 พรรษา ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 18 แห่งกรุงศรีอยุธยา รวมสิริดำรงราชสมบัติ 15 ปี ทรงราชการสงคราม เป็นเหตุการณ์ที่สำคัญและยิ่งใหญ่ ซึ่งพระองค์ได้กอบกู้อิสรภาพไทยจากการเสียกรุงศรีอยุธยาครั้งแรก และได้ทรงแผ่อำนาจของราชอาณาจักรไทย อย่างกว้างใหญ่ไพศาล นับตั้งแต่ประเทศพม่าตอนใต้ทั้งหมด พระองค์ผู้ทรงมีพระราชกรณียกิจ เป็นคุณประโยชน์ต่อชาติบ้านเมืองด้วยการทรงอุทิศพระวรกายทำราชการสงครามเกือบตลอดรัชสมัย อริราชศัตรูเกิดความยำเกรงในอำนาจ ส่งผลให้แผ่นดินไทยร่มเย็นเป็นสุขว่างจากการศึกสงคราม เป็นเวลาถึง 100 ปีเศษ
เมื่อเสด็จขึ้นครองราชย์แล้วได้ทำราชการสงครามเพื่อป้องกันพระราชอาณาเขต และทรงออกรบมาโดยตลอด จนกระทั่งก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ พ.ศ.2147 สงครามอังวะ เมืองอังวะบุกรุกเข้ามายังเมืองนายและเมืองแสนหวี ได้เสด็จกรีธาทัพพร้อมสมเด็จพระเอกาทศรถขึ้นไปยังเมืองเชียงใหม่ โดยให้ สมเด็จพระเอกาทศรถยกทัพไปทางเมืองฝาง ส่วนพระองค์ยกทัพไปทางเมืองหาง ขณะประทับแรมที่ทุ่งแก้ว เกิดประชวรเป็นหัวละลอก (ฝี) ขึ้นที่พระพักตร์จนเป็นพิษ และทำให้เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ.2148 ขณะพระชนมพรรษา 50 พรรษา
แผ่นดินไทยได้รอดพ้นจากอริราชศัตรู ดำรงความเป็นชาติเอกราชก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกอบกู้เอกราชรักษาชาติบ้านเมืองมาตราบจนทุกวันนี้
แนวทางการส่งเสริมการจัดกิจกรรมวันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
แผ่นดินไทยได้รอดพ้นจากอริราชศัตรูมีความเจริญวัฒนาสถาพร ดำรงความเป็นชาติเอกราชก็ด้วยพระมหากรุณาธิคุณที่องค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงกอบกู้เอกราชรักษาชาติบ้านเมืองมาตราบจนทุกวันนี้ ทำให้ปวงชนชาวไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และหาแนวทางการส่งเสริมการจัดกิจกรรม วันสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จัดกิจกรรมวางพวงมาลา
การจัดงานวันคล้ายวันสวรรคตสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ด้วยการจัดกิจกรรมวางพวงมาลาเพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดี และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่มีต่อชาติ บ้านเมืองและปวงชนชาวไทย ทำให้ได้มีผืนแผ่นดินอยู่ทุกวันนี้ และเพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์และรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ แห่งองค์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช จึงจัดให้มีพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะในวันสมเด็จพระนเรศวร
จัดนิทรรศการ
การจัดนิทรรศการเพื่อเผยแพร่เกียรติคุณของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ผู้เป็นพระมหากษัตริย์นักรบผู้ยิ่งใหญ่และกล้าหาญ รวมถึงประวัติในด้นชานยุทธหัตถี แต่ละครั้ง ซึ่งจะทำให้ประชาชนชาวไทย ได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อเป็นการถวายความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
เฉลิมเกียรติและน้อมรำลึก
เพื่อเฉลิมพระเกียรติและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่ทรงประกอบพระราชกรณียกิจ ทำนุบำรุงบ้านเมืองเจริญรุ่งเรืองทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนปกปักรักษาเอกราชของชาติ ซึ่งใต้ผืนดินไทยทุกตารางนิ้ว ที่ชาวไทยได้อยู่อาศัยมาจนถึงทุกวันนี้ ล้วนทาทาบด้วยเลือดของบรรพบุรุษไทย ที่ต่อสู้กับศัตรู
การปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์จากกองทัพไทย
เพื่อรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของ มหากษัตริย์ไทย กษัตริย์นักรบไทย และกษัตริย์ทุกพระองค์ รวมถึงเหล่าบรรพชนของไทย และทหารกล้าที่ได้สร้างวีรกรรมอันกล้าหาญ ยอมเสียสละเลือดเนื้อและชีวิต เพื่อปกป้องรักษาแผ่นดินไว้เป็นมรดกจนถึงวันนี้ ซึ่งทางกองทัพไทย มีการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่สูงสุด เป็นสถาบันที่สำคัญยิ่งแก่เหล่าทหาร กองทัพไทยจึงมีส่วนสำคัญในการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์
เข้าชม : 1000
|