คุณค่าจากน้ำสมุนไพร
น้ำสมุนไพรมีรสชาติที่อร่อยตามธรรมชาติ ให้คุณค่าและประโยชน์ต่อร่างกายโดยตรง มีผลต่อระบบการย่อยอาหาร เจริญอาหาร ให้พลังงาน ทำให้ผิดวพรรณเปล่งปลั่ง ร่างกายกระชุ่มกระชวย และอุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ นอกจากผิวพรรณแล้ว ยังช่วยบำรุงเส้นผมช่วยควบคุมไขมันส่วนที่เกิดจากการบริโภคเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสารอาหารในน้ำสมุนไพรช่วยควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้สารอาหารชนิดอื่นได้ประโยชน์อย่างเต็มที่
ดื่มน้ำสมุนไพร บำรุงสุขภาพ
น้ำสมุนไพรเป็นเครื่องดื่มที่ได้จากการใช้ส่วนประกอบต่างๆ ของพืช เช่น ผลไม้ ผัก/ธัญพืชต่างๆ นำมาแปรรูปให้เหมาะสมตามฤดูกาล การเตรียมน้ำสมุนไพรเพื่อดื่มเองช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่าย รสชาติดีถูกปากของคนในครอบครัว อีกทั้งปลอดจากสารเคมีด้วย
คุณค่าและประโยชน์น้ำสมุนไพร น้ำสมุนไพรมีรสชาติอร่อยตามธรรมชาติ ให้คุณค่าและประโยชน์ต่อร่าง กายโดยตรง อุดมไปด้วยวิตามิน เกลือแร่ และเป็นอาหารต้านโรคโดยเฉพาะโรคอนุมูลอิสระ ซึ่งเกิดจากความเสื่อม ได้แก่ ผิวหนังเหี่ยวย่น ฝ้า กระ ข้อเสื่อม โรคหลอดเลือด โรคหัวใจ อัมพาต ต้อกระจก มะเร็ง จนกระทั่งโรคเอดส์ เนื่องจากมีสารต้านอนุมูลอิสระ สารผัก (phytonutrient หรือ phytochemical) และเส้นใยอาหาร
สารที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มีผลต่อระบบการย่อยอาหาร ช่วยให้เจริญอาหาร ผิวพรรณเปล่งปลั่ง ร่างกายกระชุ่มกระชวย บำรุงเส้นผม ควบคุมไขมัน ที่ได้จากเนื้อสัตว์ ทำให้ร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากสารอาหารในน้ำสมุนไพรช่วยควบคุมระบบการทำงานของร่างกาย ทำให้สารอาหารชนิดอื่นได้ประโยชน์เต็มที่
ิ สูตรทำน้ำดื่มสมุนไพร
1.น้ำใบบัวบก
แม้ใบบัวบกจะมีกลิ่นเหม็นเขียวหน่อย แต่ช่วยลดความดันโลหิต บำรุงสมอง และบรรเทาอาหารนอนไม่หลับ ใครกินสดไม่ไหวลองดัดแปลงเป็นน้ำใบบัวบกสักแก้วไหมคะ สูตรนี้ใส่ใบเตยกับน้ำเชื่อมเพิ่มความหวาน
ส่วนผสม น้ำใบบัวบก
- ใบบัวบก 600 กรัม
- น้ำ 6 ถ้วย
- ใบเตย มัดเป็นปม 2-3 ใบ
- น้ำเชื่อม 1+1/2 ถ้วย
วิธีทำน้ำใบบัวบก
1. ล้างใบบัวบกให้สะอาด สะเด็ดน้ำออกจนหมด จากนั้นหั่นเป็นท่อนสั้น ๆ เตรียมไว้
2. ต้มน้ำกับใบเตยจนเดือด พักทิ้งไว้จนน้ำอุ่น
3. แบ่งใบบัวบกเป็น 6 ส่วน ทยอยใส่ลงในเครื่องปั่น ตามด้วยน้ำต้มสุกที่อุ่นแล้ว 1 ถ้วยลงปั่นจนละเอียดเป็นน้ำ ทำซ้ำจนหมด ยกลงกรองด้วยผ้าขาวบาง เอาแต่เฉพาะน้ำ เตรียมไว้
4. ใส่น้ำเชื่อมลงในน้ำใบบัวบก คนผสมให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ ใส่น้ำแข็งลงในแก้ว เทน้ำใบบัวบกใส่ลงไป พร้อมดื่ม หรือเทขวดปิดฝาให้สนิท นำเข้าตู้เย็น เก็บไว้ดื่มได้
2.น้ำกระเจี๊ยบ
กระเจี๊ยบ มีสรรพคุณขับเสมหะทำให้ชุ่มคอ ใครอยากทำน้ำกระเจี๊ยบ แค่เอาดอกกระเจี๊ยบแห้งต้มกับพุทราจีน เติมเกลือและน้ำตาลตัดรส
ส่วนผสม น้ำกระเจี๊ยบ
- ดอกกระเจี๊ยบแดงแห้ง 1 กำมือ
- พุทราจีน 1 กำมือ
- น้ำ 1-1.5 ลิตร
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย
- เกลือป่น 1 ช้อนชา
วิธีทำน้ำกระเจี๊ยบ
1. ล้างดอกกระเจี๊ยบแดงแห้งและพุทราจีนในน้ำสะอาด เอาเศษฝุ่นออก (อย่าแช่น้ำนานเพราะจะทำให้เสียรสชาติและคุณค่าทางอาหาร)
2. ต้มน้ำจนเดือดแล้วใส่กระเจี๊ยบกับพุทราจีนลงไปต้ม เคี่ยวจนน้ำเริ่มเปลี่ยนสี เติมเกลือป่น และน้ำตาลทรายลงไป คนผสมให้ละลาย (ชิมรสตามต้องการ) ยกลงกรองเอากากออก พักไว้จนเย็น เทใส่แก้ว เติมน้ำแข็ง พร้อมดื่ม หรือเทเก็บใส่ขวดแช่เย็นเก็บไว้ดื่ม
3.น้ำมะตูม ใครกำลังมองหาน้ำสมุนไพรช่วยขับลมหรือมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ มาลองทำน้ำมะตูม จับมะตูมแห้งไปย่างหรือคั่วไปจนหอมแล้วเอาไปต้มจนน้ำเดือดและสีเปลี่ยน เติมน้ำตาลทรายลงไป
ส่วนผสม น้ำมะตูม
- มะตูมแห้ง 5 ชิ้น
- น้ำ 1 ลิตร
- น้ำตาลทรายแดง 50 กรัม
วิธีทำน้ำมะตูม
1. นำมะตูมแห้งไปย่างไฟหรือคั่วในกระทะจนมีกลิ่นหอม เตรียมไว้
2. ใส่น้ำลงในหม้อตามด้วยมะตูมที่ย่างไฟแล้วลงไปต้มด้วยไฟกลางจนน้ำเดือดและเริ่มเปลี่ยนสี ประมาณ 10-15 นาที
3. ใส่น้ำตาลทรายแดงลงไปคนผสมจนละลายหมด เคี่ยวไปเรื่อย ๆ จนน้ำเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ยกลงจากเตา กรองเอากากออก พักทิ้งไว้จนเย็น
4. เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง พร้อมดื่ม
4. น้ำอัญชัน
อย่างที่รู้กันดีว่าสรรพคุณดอกอัญชันนอกจากเอามาบำรุงผมให้ดกดำหรือคั้นน้ำมาทำขนมได้แล้วยังทำเป็นน้ำสมุนไพรได้อีกด้วย ใครอยากทำน้ำอัญชันง่าย ๆ ก็แค่เอาไปต้มกับน้ำเปล่าและเติมน้ำตาล หรือจะทำน้ำอัญชันมะนาวหรือน้ำอัญชันโซดาก็ตามชอบค่ะ
ส่วนผสม น้ำอัญชันสด
- ดอกอัญชันสด
- น้ำ 2 ถ้วยตวง
- น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วย (หรือตามชอบ)
- น้ำแข็ง 1 แก้ว
วิธีทำน้ำอัญชันสด
1. ล้างดอกอัญชันให้สะอาด
2. นำดอกอัญชันไปต้มกับน้ำ ประมาณ 2-3 นาที จนน้ำเดือดและเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงิน เติมน้ำตาลทรายลงไปต้มจนละลายหมด ยกลงจากเตา กรองดอกอัญชันออก
3. รอจนน้ำอัญชันเริ่มอุ่น ชิมรสตามชอบ เทใส่แก้วที่มีน้ำแข็ง พร้อมดื่ม
แหล่งข้อมูล https://cooking.kapook.com/view198994.html
เข้าชม : 2862
|