ไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 คืออะไร ?
ไวรัสโคโรนา (Coronavirus) เป็นไวรัสที่ถูกพบครั้งแรกในปี 1960 แต่ยังไม่ทราบแหล่งที่มาอย่างชัดเจนว่ามาจากที่ใด แต่เป็นไวรัสที่สามารถติดเชื้อได้ทั้งในมนุษย์และสัตว์ ปัจจุบันมีการค้นพบไวรัสสายพันธุ์นี้แล้วทั้งหมด 6 สายพันธุ์ ส่วนสายพันธุ์ที่กำลังแพร่ระบาดหนักทั่วโลกตอนนี้เป็นสายพันธุ์ที่ยังไม่เคยพบมาก่อน คือ สายพันธุ์ที่ 7 จึงถูกเรียกว่าเป็น “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่” และในภายหลังถูกตั้งชื่ออย่างเป็นทางการว่า “โควิด-19” (COVID-19) นั่นเอง
อาการเมื่อติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือไวรัสโควิด-19
อาการของไวรัสโควิด-19 ที่สังเกตได้ง่าย ๆ ด้วยตัวเอง ดังนี้
1. มีไข้
2. เจ็บคอ
3. ไอแห้ง ๆ
4. น้ำมูกไหล
5. หายใจเหนื่อยหอบ
|
กลุ่มเสี่ยงติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19
- เด็กเล็ก (แต่อาจไม่พบอาการรุนแรงเท่าผู้สูงอายุ)
- ผู้สูงอายุ
- คนที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่นโรคหัวใจ เบาหวาน โรคปอดเรื้อรัง
- คนที่ภูมิคุ้มกันผิดปกติ หรือกินยากดภูมิต้านทานโรคอยู่
- คนที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานมาก (คนอ้วนมาก)
- ผู้ที่เดินทางไปในประเทศเสี่ยงติดเชื้อ เช่น จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง มาเก๊า สิงคโปร์ มาเลเซีย เวียดนาม อิตาลี อิหร่าน ฯลฯ
- ผู้ที่ต้องทำงาน หรือรักษาผู้ป่วย ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 อย่างใกล้ชิด
- ผู้ที่ทำอาชีพที่ต้องพบปะชาวต่างชาติจำนวนมาก เช่น คนขับแท็กซี่ เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล ลูกเรือสายการบินต่าง ๆ เป็นต้น
หากมีอาการโควิด 19 ควรทำอย่างไร ?
- หากมีอาการของโรคที่เกิดขึ้นตาม 5 ข้อดังกล่าว ควรพบแพทย์เพื่อทำการตรวจอย่างละเอียด และเมื่อแพทย์ซักถามควรตอบตามความเป็นจริง ไม่ปิดบัง ไม่บิดเบือนข้อมูลใด ๆ เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อการวินิจฉัยโรคอย่างถูกต้องมากที่สุด
- หากเพิ่งเดินทางกลับจากพื้นที่เสี่ยง ควรกักตัวเองอยู่แต่ในบ้าน ไม่ออกไปข้างนอกเป็นเวลา 14-27 วัน เพื่อให้ผ่านช่วงเชื้อฟักตัว (ให้แน่ใจจริง ๆ ว่าไม่ติดเชื้อ)
วิธีป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
1. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการไอ จาม น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ เจ็บคอ
2. หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่เสี่ยง
3. สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
4. ระมัดระวังการสัมผัสพื้นผิวที่ไม่สะอาด และอาจมีเชื้อโรคเกาะอยู่ รวมถึงสิ่งที่มีคนจับบ่อยครั้ง เช่น ที่จับบน BTS, MRT, Airport Link ที่เปิด-ปิดประตูในรถ กลอนประตูต่าง ๆ ก๊อกน้ำ ราวบันได ฯลฯ เมื่อจับแล้วอย่าเอามือสัมผัสหน้า และข้าวของเครื่องใช้ส่วนตัวต่าง ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ กระเป๋า ฯลฯ
5. ล้างมือให้สม่ำเสมอด้วยสบู่ หรือแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20 วินาที ความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ไม่ต่ำกว่า 70% (ไม่ผสมน้ำ)
6. งดจับตา จมูก ปากขณะที่ไม่ได้ล้างมือ
7. หลีกเลี่ยงการใกล้ชิด สัมผัสสัตว์ต่าง ๆ โดยที่ไม่มีการป้องกัน
8. รับประทานอาหารสุก สะอาด ไม่ทานอาหารที่ทำจากสัตว์หายาก
9. สำหรับบุคลากรทางการแพทย์หรือผู้ที่ต้องดูแลผู้ป่วยที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 โดยตรง ควรใส่หน้ากากอนามัย หรือใส่แว่นตานิรภัย เพื่อป้องกันเชื้อในละอองฝอยจากเสมหะหรือสารคัดหลั่งเข้าตา
วิธีทำหน้ากากอนามัย DIY แบบหน้ากากอนามัยผ้า เลือกวัสดุผ้า ใช้ป้องกันเชื้อโควิด19 แบบประหยัด สามารถนำไปซักมาใช้ใหม่ได้ เพิ่มความมั่นใจในการใช้ชีวิตท่ามกลางผู้คน รีวิว ขั้นตอนทำเองได้ไม่ยาก
รีวิว คลิป ขั้นตอน วิธีทำหน้ากากอนามัย DIY สามารถทำเองได้ง่ายๆ ใช้ป้องกันเชื้อโควิด19 (COVID-19) วัสดุ อุปกรณ์สำหรับหน้ากากอนามัยทำเอง มีดังนี้
- ผ้ายืด, ผ้าผ้าฝ้าย หรือผ้าสาลู
- กรรไกร
- เข็มและด้ายเย็บผ้า
- ยางยืด ไส้ไก่ หรือเชือกอเนกประสงค์
วิธีทำหน้ากากอนามัย DIY แบบผ้า ทำเองก็ใช้ได้เหมือนกัน
เตรียมวัสดุอุปกรณ์ค่ะ ซึ่งวัสดุอุปกรณ์ทำหน้ากากผ้า
แบ่งครึ่งผ้าตามด้านยาว วัดออกมาด้านล่ะ 1 นิ้วแล้วจับจีบทวิส
นำด้านหน้าของจีบทวิสมาประกบกันแล้วนำยางยืดติดไว้ตรงมุมทั้งสองข้าง
นำเข็มหมุดมากลัดผ้าเพื่อไม่ให้หลุดออกจากกันตอนที่เราเย็บ (วิธีทำหน้ากากอนามัย)
เริ่มเย็บโดยรอบได้เลยค่ะเหลือช่องว่างตรงกลางไว้สำหรับกลับผ้าประมาณ 1 นิ้ว
เปิดช่องกลับผ้าให้เป็นรูๆ แบบนี้แล้วก็กลับผ้าด้านในออกมา
กลับผ้าเรียบร้อยแล้วก็สอยเก็บช่องว่างที่ใช้กลับผ้า แล้วก็รีดให้สวยงาม
เสร็จสิ้นขั้นตอน หน้ากากอนามัยทำเอง
นอกจากนี้ ทางกระทรวงสาธารณสุขยังมีวิธีการทำ “เจลล้างมือ” หรือ “แอลกอฮอล์เจล” อย่างง่ายด้วยตัวเอง โดยมีขั้นตอน อุปกรณ์ และวิธีการทำดังนี้
ส่วนผสม “เจลล้างมือ”
- คาร์โบพอล เป็นผงที่ทำให้เกิดเป็นเนื้อเจล โดยสามารถหาซื้อได้จากร้านขายเคมีภัณฑ์
- แอลกอฮอล์ 70% ที่ใช้สำหรับฆ่าเชื้อ หาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไป
- กลีเซอรีน ซึ่งสามารถหาซื้อได้จากร้านขายยาทั่วไปเช่นเดียวกัน
- น้ำสะอาด ใช้ประมาณครึ่งแก้ว
- ชามผสม 2 ใบ
ขั้นตอนการทำ “เจลล้างมือ”
- ชามใบแรก ใช้ผงคาร์โบพอลประมาณครึ่งช้อน ผสมน้ำครึ่งแก้ว คนจนเกิดเป็นเนื้อเดียวกัน พักไว้
- นำชามอีกใบมาผสมแอลกอฮอล์กับกลีเซอรีน โดยใช้แอลกอฮอล์ประมาณครึ่งขวด และกลีเซอรีน 1 ขวดเล็ก แล้วคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน (หากใช้แอลกอฮอล์อย่างเดียวจะทำให้ผิวแห้ง การเติมกลีเซอรีนจะช่วยให้เพื่อความชุ่มชื้น)พักไว้
- นำส่วนผสมจากข้อ 1 และ 2 มาผสมให้เข้ากัน
- น้ำแอลกอฮอล์เจลที่ได้ ใส่ขวดที่เตรียมไว้และปิดฝาให้สนิท เพื่อนำไปใช้ แนะนำให้ใช้ให้หมดภายใน 30 วัน
----------------------
เข้าชม : 1968
|