กลั้นเยี่ยว บางทีอาจเสี่ยง ติดเชื้อโรคในกระเเสเลือด
เว้นเสียแต่โรคติดเชื้อ COVID-19 ที่กำลังเฝ้าระวังกันอย่างมากในตอนนี้ ปัญหาที่เกิดขึ้นกับการติดโรคในกระแสโลหิต ก็ยังคงคือปัญหาสำคัญทางสาธารณสุข ซึ่งอาจจะทำให้คนเจ็บถึงแก่กรรม โดยกำเนิดได้อีกทั้งจากเชื้อไวรัส รวมทั้งแบคทีเรีย เพียงแต่ผู้กระทำลั้นฉี่ ก็อาจจะส่งผลให้มีการติดเชื้อโรคในกระแสโลหิตได้
ท้องเสียบ่อย ขุยกุหลาบ คันช่องคลอด ประจําเดือนสีน้ําตาล ติดเชื้อในกระแสเลือด
คุณครูแพทย์หญิงรพีพรรณ รัตนวงศ์นรา มอร์ด คุณครูประจำสาขาวิชาโรคติดเชื้อ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ ภาควิชาแพทยศาสตร์โรงหมอรามาหัวหน้า มหาวิทยาลัยมหิดล รวมทั้งหมอผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับสภาวะการรับเชื้อในกระแสโลหิต บอกว่า การได้รับเชื้อในกระแสโลหิตจากผู้กระทำลั้นเยี่ยว จำนวนมากจะเจอในสตรี เหตุเพราะมีทางเดินเยี่ยวที่สั้นกว่าเพศชาย ก็เลยทำให้เชื้อจากข้างนอกไปสู่ในร่างกายได้ง่ายยิ่งกว่า ซึ่งถ้าหากปล่อยทิ้งเอาไว้เป็นระยะเวลาที่ยาวนานกระทั่งกำเนิดความผิดแปลก และไม่ได้เข้ารับการดูแลรักษาที่ถูก อาจจะส่งผลให้เชื้อไปสู่กระแสโลหิตได้
อาการเปลี่ยนไปจากปกติจากผู้กระทำลั้นเยี่ยว อาการที่พบมากในผู้เจ็บป่วยที่กลั้นฉี่จนถึงเกิดภาวะติดเชื้อโรคในกระแสโลหิต จะเริ่มจากการปวดท้องฉี่บ่อยครั้ง มีความรู้สึกราวกับต้องการเข้าห้องอาบน้ำอยู่เสมอเวลา เยี่ยวขุ่น หรือเปลี่ยนสี มีกลิ่นเหม็น นอกจากนั้น อาจมีลักษณะของการปวดท้องน้อย แล้วก็ปวดลุกลามมาถึงรอบๆข้างหลัง เป็นไข้หนาวสั่น และก็อ่อนแรง
การดูแลรักษาอาการติดโรคในกระแสโลหิตจากผู้กระทำลั้นฉี่ สำหรับในการรักษา ทางโรงหมอรามาหัวหน้า แผนกแพทยศาสตร์โรงหมอรามาหัวหน้า มหาวิทยาลัยมหิดล ได้กระทำตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข โดยรับคนไข้จากห้องรีบด่วน เพื่อคัดเลือกกรองมองภาวการณ์การเสี่ยงติดเชื้อโรคในกระแสโลหิต หลังจากนั้นจะจัดให้คนป่วยที่มีสภาวะซึ่งสงสัยว่าอาจมีการได้รับเชื้อในกระแสโลหิตอยู่ในโซนสีแดง เพื่อได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด และก็ให้ยาทำลายเชื้อได้อย่างทันเวลา
ยิ่งกว่านั้น เพื่อการผลักดันและส่งเสริมให้การรักษาภาวการณ์ติดเชื้อโรคในกระแสโลหิตมีคุณภาพเพิ่มขึ้น ก่อนหน้านี้ สาขาวิชาโรคติดเชื้อ สาขาวิชาอายุรศาสตร์ แผนกแพทยศาสตร์โรงหมอรามาหัวหน้า มหาวิทยาลัยมหิดล ได้มีการทำการค้นคว้าพินิจพิจารณาเชื้อในกระแสโลหิต เพื่อมองผลการให้ยาที่ถูก รวมทั้งกำเนิดประสิทธิผลเยอะที่สุด ซึ่งจะเป็นการรักษาที่ถูกจุดกว่าการให้ยาแบบครอบคลุมทุกโรค และยังมีการทำการค้นคว้าเพื่อยั้งต้นสายปลายเหตุที่จะกระตุ้นให้เกิดการได้รับเชื้อในกระแสโลหิต เพื่อการเฝ้าระวังอย่างครบวงจรอีกด้วย
ในอนาคตคาดว่าจะมีการต่อยอดการศึกษาเรียนรู้วิจัยเพื่อติดตามผลของการรักษา โดยมองความรวดเร็วสำหรับการเพาะเชื้อ การแพ้ยา การดื้อยา และพินิจพิจารณาเพราะว่า เชื้อโรคที่ทำให้เกิดสภาวะการได้รับเชื้อในกระแสโลหิตในแต่ละปี แล้วก็ในแต่ละที่มีความต่างกันเช่นไร เพื่อหมอจะได้ให้การรักษาคนเจ็บได้อย่างแม่นยำ รวมทั้งเหมาะมากที่สุด
ทุกคนสามารถไกลห่างจากภาวการณ์การรับเชื้อในกระแสโลหิตได้ ด้วยการพยายามทำร่างกายตนเองให้แข็งแรง ทานอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ หมั่นบริหารร่างกาย พักให้พอเพียง แล้วก็ที่สำคัญ ถ้าเกิดดูเจออาการไม่ดีเหมือนปกติ ควรจะรีบเจอหมอ
เข้าชม : 183
|