สังเกตตัวเองสักนิด กับ 5 สัญญาณเตือน “ข้อเข่าเสื่อม”
1.ข้อเข่าฝืดและขัดขณะเคลื่อนไหว
หากตื่นเช้ามาแล้วรู้สึกข้อเข่าฝืดแข็ง เหยียดหรืองอเข่าลำบาก ต้องใช้เวลายืดเหยียดเข่าอยู่พักใหญ่ๆ กว่าจะลุกขึ้นมาเดินได้ มีสาเหตุมาจากการที่นํ้าหล่อเลี้ยงข้อเข่าน้อยลง ซึ่งปกติจะทำหน้าที่คล้ายกับนํ้ามันหล่อลื่นในเครื่องยนต์ ช่วยให้ข้อเข่าเคลื่อนไหวได้ราบรื่น และยังมีสารอาหารไปหล่อเลี้ยงหมอนรองกระดูกอีกด้วย ซึ่งการที่นํ้าหล่อเลี้ยงข้อเข่าลดน้อยลงจะทำให้หมอนรองกระดูกได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ จนหมอนรองกระดูกเสื่อมสภาพไวขึ้นได้เช่นกัน
2. มีเสียงกร๊อบแกร๊บในข้อเข่า
เสียงภายในข้อเข่านั้นเกิดจากการที่ผิวกระดูกต้นขาและผิวกระดูกหน้าแข้งเสียดสีกัน ซึ่งโดยปกติแล้วผิวข้อกระดูกทั้งสองชิ้นจะมีหมอนรองกระดูกรองอยู่ คอยทำหน้าที่รับนํ้าหนัก กระจายแรง ป้องกันไม่ให้ผิวกระดูกชนกัน และช่วยให้ข้อต่อเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น แต่ในบางคนที่อายุมากหรือเคยเกิดอุบัติเหตุที่ข้อเข่าโดยตรงจะทำให้หมอนรองกระดูกเสื่อมสลายไป เมื่อไม่มีหมอนรองกระดูกก็จะทำให้ผิวกระดูกเสียดสีกันจนเกิดเสียงดังครืดคราดขึ้นมานั่นเอง
3. ปวดบวมแดงและร้อนบริเวณข้อ
เกิดจากผิวกระดูกเสียดสีกัน เนื่องจากภายในกระดูกของคนเราจะมีเส้นประสาทรับความรู้สึกอยู่ เมื่อผิวกระดูกเสียดสีกันจึงทำให้เกิดอาการปวดขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดจากผิวกระดูกที่เสียดสีกันจนเสียหายงอกขึ้นมาใหม่ ทำให้เกิดภาวะกระดูกงอกขึ้นมารอบๆ แล้วไปทิ่มแทงเนื้อเยื่อรอบๆ เข่า ทำให้เกิดอาการปวดเข่าในที่สุด และจะยิ่งปวดมากเมื่อเดินลงนํ้าหนัก
4. งอเข่าและเหยียดได้ไม่สุดเหมือนเดิม
โดยปกติจะงอเข่าได้เต็มช่วง คือ พับเข่าได้สุด เหยียดเข่าได้สุด แต่เมื่อเกิดอาการเข่าเสื่อมเราจะไม่สามารถงอเข่าได้สุด อาจจะงอได้ครึ่งเดียวแล้วเมื่อพยายามกดเข่าให้งอเพิ่มขึ้นก็อาจจะรู้สึกปวดเข่าจี๊ดขึ้นมาทันที หรือรู้สึกขัดๆ ในกระดูกทำให้ไม่สามารถงอเข่าต่อได้ ซึ่งสาเหตุที่ทำให้ข้อเข่าติดแข็งนั้นเกิดจากกระดูกต้นขาและกระดูกหน้าแข้งทรุดตัวจากกล้ามเนื้อ เส้นเอ็นรอบเข่าอ่อนแรง ความมั่นคงของข้อเข่าจึงลดน้อยลง กระดูกทั้ง 2 จึงอยู่ชิดกันมากเกินไป เมื่องอเข่าจึงทำให้กระดูกทั้ง 2 ขัดกัน
5.เข่าผิดรูป โก่งออกนอก
ขาโก่งผิดปกติ...จนเดินลำบาก
ในกลุ่มนี้จะสังเกตได้ว่าความโก่งของเข่านั้นมักไม่เท่ากัน เวลาเดินตัวจะโยกไปมา เพราะขาสั้นยาวไม่เท่ากัน ซึ่งเมื่อต้องเดินไกลๆ หรือนานๆ ก็มักจะมีอาการปวดหลังเรื้อรังตามมา ลักษณะของอาการปวดนี้จะปวดแบบเฉพาะจุด อยู่บริเวณด้านในของเข่าทั้งสองข้าง อาจจะเริ่มจากข้างใดข้างหนึ่งก่อน แล้วลามไปอีกข้าง ซึ่งหากวิ่งหรือมีการกระแทกก็จะยิ่งปวดบวมบริเวณข้อเข่า ส่วนใหญ่มักพบว่าช่วงแรกๆ จะเริ่มโก่งแค่ข้างเดียวก่อน ซึ่งทำให้หลายคนเลือกที่จะเดินลงน้ำหนักไปที่เข่าอีกข้าง จนกระดูกอ่อนของเข่าข้างที่ดีทนไม่ไหว เริ่มสึกและโก่งตาม จนมีการอักเสบ ปวดบวม และเดินไม่ถนัด
ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงสัญญาณเตือนเบื้องต้นเท่านั้น ที่สำคัญเราต้องดูว่าเรามีพฤติกรรมความเสี่ยงต่อการเกิดข้อเข่าเสื่อมหรือไม่เราจึงควรเลือกดูแลข้อเข่าด้วยวิธีการที่เหมาะสม
มารักสุขภาพด้วยกันกับน้ำมันปลาและแคลเซี่ยม
ที่มา: Fish oil น้ำมันปลากิฟฟารีน by mai
เข้าชม : 614
|