หน่อไม้ฝรั่ง สารอาหารเพียบ เห็นก้านเขียวๆ เรียวๆ แบบนี้ Kathleen Zelman นักโภชนาการจากวิทยาลัยเซนต์แมรีส์โดมินิกัน (St. Mary’s Dominican College) ประเทศสหรัฐอเมริกา บอกว่า
.
หน่อไม้ฝรั่งประมาณ 1 ขีดครึ่ง (150 กรัม) ให้กรดโฟลิก (folic acid) ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการทั้งหมดของร่างกายในหนึ่งวันเป็นแหล่งอาหารที่ดีของวิตามินบี 6 วิตามินบี 1 วิตามินเอ วิตามินซีโพแทสเซียม และใยอาหาร ทั้งยังให้พลังงานต่ำอีกด้วย
.
ทำไมกินหน่อไม้ฝรั่งจึงป้องกันเบาหวานได้ เพราะนักวิจัยจาก University of Ulster ประเทศไอร์แลนด์ ค้นพบว่า การกินหน่อไม้ฝรั่งมีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่งอินซูลิน (insulin) ซึ่งเป็นฮอร์โมนช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ โดยผลการค้นพบนี้จะมีการวิจัยต่อยอดเพื่อนำข้อมูลมาใช้ในการรักษาโรคเบาหวานต่อไป
.
ส่วนเหตุผลที่ว่า ทำไมหน่อไม้ฝรั่งจึงป้องกันมะเร็งได้ เพราะผักชนิดนี้มีวิตามินบี 6 และกรดโฟลิกสูง ซึ่งจากรายงานวิจัยในวารสาร The Journal of the American Medical Association ระบุว่า วิตามินบี 6 กรดโฟลิก และกรดแอมิโน เมไทโอนีน (methionine) สามารถช่วยลดโอกาสการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอดลงได้มาก 2 - 3 เท่า (สำหรับกรดแอมิโนเมไทโอนีนพบได้ทั่วไปในถั่วและโยเกิร์ต)
ทั้งนี้นักวิจัยจากสถาบันป้องกันมะเร็ง (Institute for Cancer Prevention : IFCP) ประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า โปรตีนกลูตาไทโอน (glutathione) ในหน่อไม้ฝรั่งมีประสิทธิภาพเพิ่มภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกาย จึงช่วยป้องกันการลุกลามของมะเร็ง
.
หน่อไม้ฝรั่งนำมาปรุงเป็นอาหารได้หลากหลายทั้งต้มจืด ผัดผัก แกงส้ม และกินเป็นสลัด แต่ก่อนนำมาทำอาหารควรล้างให้สะอาด แล้วหักเป็นท่อนพอดีคำขนาดเท่าๆ กันจากส่วนยอดลงมาก้านหน่อไม้ฝรั่งควรเปราะหักง่าย หากหักแล้วเหนียวหรือมีเสี้ยนไม่ควรใช้ทำอาหาร ไม่ควรใช้มีดหั่น เพราะทำให้ไม่สามารถสัมผัสเนื้อหน่อไม้ฝรั่งได้ อาจทำให้ได้เนื้อที่แก่และเหนียวจนเกินไป
.
#ชีวจิต #ผัก #หน่อไม้ฝรั่ง #preventionandhealing #diet
ขอบคุณที่มา:นิตยสารชีวจิต
ที
เข้าชม : 505
|