ปัจจุบันวิถีสังคมแห่งการแบ่งปัน แบบชนบทในบ้านเรา อาจดูพร่ามัวไปในหลายๆชุมชนเมือง ภาพการหิ้วกล้วยหลายๆหวี ไปแจกจ่ายตามครัวเรือน เพื่อนบ้านแล้วได้ผัก ,ปลาแห้ง,มะนาว, ไข่ไก่หิ้วกลับไป ระหว่างเดินกลับบ้านอาจเก็บผักริมรั้ว ไปเป็นเครื่องเคียงต้มยำ แกงปลา นับเป็นภาพที่สะถ้อนวิถีชุมชนคนไทย อันแสนอบอุ่น ที่หายากในท่ามกลางเมืองหมู่บ้านจัดสรรในเชียงใหม่

แต่สำหรับ ชุมชนเมืองแม่โจ้ ยังคงพบเห็นได้ในทุกๆ 19 ชุมชน ไม่ว่าจะเป็นที่ บ้านแพะป่าห้า ที่ปลูกพืชผักเกษตรอินทรีย์ ทำปุ๋ยแบบไม่กลับกอง เป็นฐานเรียนรู้ ดูงานปลูกผักในมุ้ง เสมือนซุปเปอร์มาร์เก็ตในบ้าน เช่นเดียวกับที่บ้านสหกรณ์นิคม 1 “ป้าปิมปา แก้วเรือน” ในวัย 60 กว่าๆยังแข็งแรง กับการลงมือเพาะกล้าเมล็ดพันธุ์พืชผัก กระจายปลูกรอบบ้าน แวะเวียนผ่านไปบ้านไหน ก็หิ้วถุงพริกขี้หนูไปฝากให้ปลูกตามบ้านเรือนผู้รู้จักมักคุ้น บรรดาพืชผักกาด ,ถั่ว,แตงกวา, สารพัดพืชผัก ปรุงเป็นเมนูอร่อยๆ นำไปวางขายในซุ้มข้างโรงพักแม่โจ้ มีรายได้ทุกวัน มีความสุขยิ่งกว่ารอรับเบี้ยผู้สูงวัย

อาจารย์ อนันต์ ปัญญาวีร์ กล่าวว่า ท้องถิ่นเมืองแม่โจ้ ร่วมกับชุมชนพ่อแม่พี่น้องในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงม.แม่โจ้ น้อมนำเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติ ให้เกิดผลยกระดับคุณภาพชีวิต ถ้าทุกครัวเรือนมีมุมปลูกผักสวนครัว พืชริมรั้ว จะเป็น ขิง ข่า ตะไคร้ อะไรๆก็ได้ที่อยากกิน อยากปลูก ใช้พื้นที่เท่าที่มีในบ้าน ที่พัก จะปลูกลงดิน แขวนกระถาง จะเป็นการช่วยลดรายจ่าย ในการซื้อวัตถุดิบมาปรุงอาหาร และถ้าเหลืออาจวางขายหน้าบ้าน หรือส่งตามตลาดให้แม่ค้า ที่คุ้นเคยกันมีรายได้เสริมด้วย ซึ่งแต่ละชุมชน ต่างมีจุดที่เปิดโอกาสให้ชาวบ้าน นำผลผลิตมาวางขาย ในราคาย่อมเยาว์หลายแห่ง

คุณวัชราภรณ์ สุขขี นักวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และคุณนิคม วงศ์นันตา นักวิชาการเกษตร ซึ่งมีโอกาสมาร่วมถ่ายทอดวิธีการปลูกกล้วยน้ำว้า พันธุ์ปากช่อง 50 ในศาลาประชาคมแถวๆบ้าน เล่าให้ฟังว่ากล้วยปลูกง่าย โตไว ให้ผลผลิตดี ศัตรูพืชน้อย ให้ผลผลิตตลอดทั้งปี ระยะเวลาปลูกจนถึงเก็บเกี่ยวผล ผลิตไม่ถึงปี ปลูกต้นแม่ต้นเดียวเก็บเกี่ยวหน่อตามได้มากกว่า 10 ปี เป็นแหล่งอาหารที่มีประโยชน์ในครัวเรือน ราคาช่วงนี้ก็หวีละ 40-50 บาท มีผลผลิต รวบรวมกันขายปลีก ขายส่งได้ หรือจะแปรรูปเป็นกล้วยทอด กล้วยตาก ก็เพิ่มมูลค่าอีกรูปแบบ

การปลูกกล้วย ปลูกพืชผักสวนครัววิถีเศรษฐกิจพอเพียง ในบ้าน ในชุมชนเมืองแม่โจ้ ที่มีลักษณะก้ำกึ่งระหว่างความเป็นเมืองกับชนบทนั้น น่าจะเป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่ผู้สนใจ สามารถแวะเวียนมาเรียนรู้ ดูงานได้…เชิญครับเชิญ..