<< |
>> |
1 |
2 |
3 |
4 |
5 |
6 |
7 |
8 |
9 |
10 |
11 |
12 |
13 |
14 |
15 |
16 |
17 |
18 |
19 |
20 |
21 |
22 |
23 |
24 |
25 |
26 |
27 |
28 |
29 |
30 |
31 |
|
|
|
|
|
|
ถนนเชียงใหม่-หางดง เมื่อพ.ศ. 2512
.jpg)
|
|
นางสุนันท์ นาหลวง
ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอหางดง
|
ศัลยแพทย์ ชี้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรคโควิด-19 กระตุ้นให้สังคมไทยตื่นตัวในการเรียนรู้และปรับพฤติกรรมต่าง ๆ เพื่อสู้กับเชื้อโรค ทำให้ได้เห็นข้อดีและเกิดการพัฒนาอย่างเป็นรูปแบบใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) ด้านสุขอนามัย (hygiene) 2) ด้านการสุขาภิบาล (Sanitation) และ 3) ด้านสังคม (Social) พร้อมแนะควรใช้วิกฤติครั้งนี้ให้เป็นโอกาส ทำบ้านเมืองให้สะอาด ปราศจากมลพิษและปลอดภัยจากเชื้อโรคต่าง ๆ ให้เร็วที่สุด นายแพทย์ชลธิศ สินรัชตานันท์ นายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งเอเชีย และอดีตนายกสมาคมศัลยกรรมตกแต่งใบหน้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ประเทศไทยประสบปัญหามลภาวะทางอากาศ ทั้งควันพิษ และฝุ่นละออง PM2.5 จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของคนไทย ทำให้มีการณรงค์สวมใส่หน้ากากาอนามัย ล้างมือฆ่าเชื้อ ซึ่งนับเป็นการรณรงค์ด้านสุขอนามัย (hygiene) พื้นฐานสำหรับคนไทย ดังนั้นเมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า สายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจอุบัติใหม่ หรือ โควิด-19 ขึ้น ในความหวาดกลัว และตื่นตระหนก ทำให้เห็นคนไทยตื่นตัวและให้ความสำคัญกับเรื่องของสุขอนามัย (hygiene) อย่างจริงจังมากขึ้น ซึ่งเป็นข้อดีประการแรก เพราะสุขอนามัยเป็นพื้นฐานสำคัญของการมีสุขภาพที่ดี และปัจจุบันยังถือเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมอีกด้วย
|
|