"ธนากร"เปิดโครงสร้าง-อัตรากำลัง สกร."ส่วนกลาง- ตจว."
สนอง"บิ๊กอุ้ม"ฟื้นจัดสอบเทียบเพื่อเด็กอัจฉริยะภายในปี'67
เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2567 EduGuide 4.0 รายงานช่าว นายธนากร ดอนเหนือ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมส่งเสริมการเรียนรู้ (สกร.) เปิดเผยความคืบหน้าการจัดทำโครงสร้างกรมส่งเสริมการเรียนรู้ กระทรวงศึกษาธิการ ว่า ขณะนี้ได้ข้อยุติแล้วว่า หน่วยงานภายใน สกร. ในส่วนกลางจะมี 12 กอง ประกอบด้วย 1.กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร 2.กลุ่มตรวจสอบภายใน 3.กลุ่มกฎหมายและนิติการ 4.สำนักงานเลขานุการกรม 5.กองบริหารการคลัง
6.กองบริหารทรัพยากรบุคคล 7.กองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อคุณวุฒิตามระดับ 8.กองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้เพื่อการพัฒนาตนเอง 9.กองยุทธศาสตร์และแผนงาน 10.กองส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต 11.กองมาตรฐานความรู้และรับรองวุฒิ และ 12.ศูนย์เทคโนโลยีดิจิทัลและสารสนเทศ ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมการเรียนรู้ และศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์
ส่วนระดับพื้นที่ จะมีหน่วยงานการศึกษา/สถานศึกษากระจายอยู่ทั่วประเทศ ประกอบด้วย สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด ,สถาบันส่งเสริมการเรียนรู้ภาค, สถาบันการศึกษาและพัฒนาต่อเนื่องสิรินธร, สถาบันการศึกษาทางไกล และศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้กลุ่มเป้าหมายพิเศษ โดยภายใต้สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้ประจำจังหวัด จะมีศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้ระดับอำเภอ, ศูนย์หรือสถาบันการเรียนรู้เฉพาะด้านหรือเฉพาะกิจการ, ศูนย์การเรียนรู้ระดับตำบล และศูนย์การเรียนรู้ในพื้นที่
โดยมีการกำหนดกรอบอัตรากำลังของ สกร.ทั้งหมด ดังนี้ เป็นข้าราชการ 4,980 อัตรา, พนักงานราชการ 15,139 อัตรา และลูกจ้างประจำ 248 อัตรา ทั้งนี้ โครงสร้างการแบ่งส่วนราชการและการกำหนดกรอบอัตรากำลังจะแล้วเสร็จประมาณเดือนมิถุนายน 2567
รักษาราชการแทนอธิบดี สกร. กล่าวต่อว่า สำหรับกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามความใน พ.ร.บ.ส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ.2566 ซึ่งได้ดำเนินการแล้วเสร็จไปแล้วส่วนหนึ่ง เช่น การกำหนดสถานที่ตั้งของสำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้จังหวัด สำนักงานส่งเสริมการเรียนรู้กรุงเทพมหานคร /ศูนย์ส่งเสริมการเรียนรู้อำเภอและเขต (กทม.) / ศูนย์การเรียนรู้ตำบลและแขวง (กทม.) การกำหนดอำนาจหน้าที่ของศูนย์การเรียนรู้ชุมชนชาวไทยภูเขา “แม่ฟ้าหลวง” การประกาศให้จัดตั้งศูนย์หรือสถาบันการเรียนรู้เฉพาะด้านหรือเฉพาะกิจการ ซึ่งกำหนดให้เป็นสถานศึกษาไปแล้วจำนวน 39 แห่ง และการกำหนดให้หน่วยจัดการเรียนรู้มีอำนาจในการรับรองคุณวุฒิให้แก่ผู้เรียนเมื่อสำเร็จการศึกษา โดยมีการออกเป็นประกาศนียบัตร หรือวุฒิบัตร หรือหนังสือรับรองความรู้ เพื่อนำไปสะสมในการได้รับการรับรองคุณวุฒิ
นายธนากร กล่าวด้วยว่า สกร.กำลังนำนโยบายของ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) มาปฏิบัติโดยเร็ว 2 นโยบายภายในปี 2567 คือ นโยบายการจัดการศึกษาเพื่อเด็กอัจฉริยะ และการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานทำ โดยในส่วนของการจัดการศึกษาเพื่อเด็กอัจฉริยะ ทาง สกร.กำลังพัฒนาหลักสูตรสอบเทียบเพื่อรองรับเด็กกลุ่มนี้ และเพื่อให้การศึกษาขั้นพื้นฐานมีมาตรฐานเดียวกันทั่วประเทศ สกร.จึงได้ร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นสถาบันพัฒนาหลักสูตรและการเรียนรู้ ตามร่างกฎหมายการศึกษาแห่งชาติฉบับใหม่ และสำนักงานคณะการรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ในการจัดทำหลักสูตรมาตรฐานของชาติมาจัดสอบ และมอบให้สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (สทศ.) เป็นผู้ออกข้อสอบ
"นอกจากนี้ ผมเตรียมจะหารือกับทางมหาวิทยาลัย ให้ช่วยจัดทำหลักสูตรนักส่งเสริมการเรียนรู้ เพื่อให้ครูและบุคลากร สกร.เข้ารับการอบรม โดยเรียนที่มหาวิทยาลัย 1-2 วัน และศึกษาทำงานในพื้นที่ 3-6 เดือน จบแล้วได้รับหน่วยกิตไปสอบเทียบระดับปริญญาโทได้ เพื่อเตรียมบุคลากรให้พร้อมปฏิบัติงานใหม่ๆ ตามกฎหมายและโครงสร้างของ สกร. ซึ่งผมมองว่า เป้าหมายงานของ สกร.คือ แผนที่เพิ่มโอกาสคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย"