[x] ปิดหน้าต่างนี้
 

 

เนื้อหา : สาระน่ารู้พัฒนาทักษะชีวิต
หมวดหมู่ : แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น
หัวข้อเรื่อง : สหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทาจำกัด

พุธ ที่ 25 เดือน มกราคม พ.ศ.2555


สหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด



 





ตั้งอยู่ที่ หมู่ 5 บ้านป่านอด ตำบลแม่ทา อำเภอแม่ออน จังหวัดเชียงใหม่  ซึ่งตั้งห่างจากตัวเมืองมาทางทิศใต้ราว 70 กิโลเมตร  โดยสมาชิกของสหกรณ์มาจากหมู่ 1 (บ้านทาม่อน) หมู่ 2 (บ้านท่าข้าม) หมู่ 3 (บ้านค้อกลาง) หมู่ 4 (บ้านห้วยทราย) หมู่ 5 (บ้านป่านอต) หมู่ 6 (บ้านดอนชัย) และหมู่ 7 (บ้านใหม่ดอนชัย)

สหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด เกิดจากที่กลุ่มองค์กรชาวบ้านที่รวมตัวกันเพื่อแก้ไขปัญหาของตนเอง ครอบครัวและทำงานพัฒนาในชุมชน โดยใช้ชื่อเครือข่ายคณะกรรมการกลางแม่ทา ได้ยกระดับขึ้นมาเป็นนิติบุคคลเพื่อให้การดำเนินงานที่สะดวกและสอดคล้องกับสถาณการณ์ปัจจุบันเป็นสหกรณ์การเกษตรยั่งยืนแม่ทา จำกัด ซึ่งก่อตั้งขึ้นเมื่อ 15 มิถุนายน ปี 2543  และได้จดทะเบียนเป็นสหกรณ์ เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2544  กับสมาชิกทั้งหมด  135 ราย (มูลนิธิสายใยแผ่นดินและสหกรณ์กรีนเนท ได้ริเริ่มโครงการเกษตรอินทรีย์โดยเน้นการผลิตข้าวโพดฝักอ่อนอินทรีย์ และชุดต้มยำสมุนไพรอบแห้งกับกลุ่มผู้ผลิตตั้งแต่ปี 2541 ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนเป็นสหกรณ์ฯ)

ระบบการเกษตรที่แม่ทา โดยทั่วไปประกอบด้วยการปลูกข้าวเหนียวในช่วงฤดูฝนในพื้นที่ลุ่มสำหรับบริโภคในครัวเรือน และปลูกพืชเศรษฐกิจบนพื้นที่สูง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นฟาร์มไม้ผลยืนต้นผสมผสาน ที่ไม่ต้องการการดูแลมาก เช่น กล้วย ลำไย มะม่วง มะขาม ขนุน

เกษตรกรส่วนใหญ่มีรายได้จากการทำปลูกข้าวโพดฝักอ่อน ซึ่งเป็นพืชพาณิชย์ที่สำคัญที่สุดในชุมชน ข้าวโพดฝักอ่อนใช้ระยะเวลาในการปลูกสั้นมาก เพียง 45 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ ซึ่งทำให้การปลูกข้าวโพดฝักอ่อนมีปัญหาโรคและแมลงน้อยมาก และมีการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชน้อย แต่การปลูกข้าวโพดฝักอ่อนต้องใช้ปุ๋ยที่มีไนโตรเจนสูง   ในรอบปีหนึ่งๆ เกษตรกรสามารถปลูกข้าวโพดฝักอ่อนได้ 4-5 ครั้ง โดยการปลูกรอบแรกในช่วงต้นฤดูฝน ราวปลายเดือนเมษายนหรืออย่างช้าก็ต้นเดือนพฤษภาคม จะเป็นการปลูกบนพื้นที่ดอน ซึ่งสามารถปลูกได้เพียง 2-3 รุ่น (สามารถปลูกได้จนถึงเดือนตุลาคม เมื่อฝนหยุดตก) จากนั้นการปลูกข้าวโพดฝักอ่อนก็จะโยกย้ายลงมาปลูกในพื้นที่ลุ่ม หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ พื้นที่ลุ่มสามารถปลูกข้าวโพดฝักอ่อนได้อีก 1-2 รุ่น นับจากเดือนธันวาคมถึงเดือนมีนาคม

แหล่งรายได้อื่นๆ คือ การเลี้ยงสัตว์ โดยเฉพาะวัว ซึ่งเกษตรกรจะซื้อวัวตัวผู้มาเลี้ยงขุนให้อ้วนประมาณ 2-3 เดือน จากนั้นก็ขายวัวขุนในราคาที่สูงขึ้น  เกษตรกรบางรายซื้อวัวตัวผู้ที่อายุน้อยมาเลี้ยงขุนในเวลาที่นานขึ้น ซึ่งเกษตรกรอาจใช้สัตว์เลี้ยงเหล่านี้ในการขนส่ง ลำเลียงผลผลิตจากฟาร์มมาที่บ้านได้ด้วย  ในช่วงตั้งแต่ปี 2549 มีการเลี้ยงวัวนมในหมู่บ้านเพิ่มขึ้นด้วย

มูลนิธิสายใยแผ่นดินและสหกรณ์กรีนเนทได้เริ่มทำงานกับสหกรณ์ตั้งแต่ปี 2536 โดยการช่วยจัดหาตลาดให้กับเกษตรกรที่รวมตัวกันปลูกผักเกษตรอินทรีย์  ต่อมาในปี 2541 มูลนิธิสายใยแผ่นดินและสหกรณ์กรีนเนทได้เริ่มจัดทำโครงการส่งเสริมเกษตรอินทรีย์ โดยเน้นที่การปลูกข้าวโพดฝักอ่อน ลำไย และผัก  ณ สิ้นปี 2553 มีเกษตรกรสมาชิกสหกรณ์แม่ทาฯ ที่เข้าร่วมในโครงการเกษตรอินทรีย์กับมูลนิธิสายใยแผ่นดินและสหกรณ์กรีนเนทจำนวน 103 ราย รวมพื้นที่การผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ 617.37 ไร่

ที่มา : www.greennet.or.th/portfolio/410


เข้าชม : 2184


แหล่งเรียนรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่น 5 อันดับล่าสุด

      ไร่ปลูกฝัน 17 / ส.ค. / 2566
      กลุ่มวิสาหกิจผู้ปลูกกาแฟบ้านป๊อก 19 / ก.พ. / 2565
      กลุ่มทอผ้าปาเกอญอบ้านป่างิ้ว 19 / ก.พ. / 2565
      วัดห้วยบงธรรมจาริก 19 / ก.พ. / 2565
      วัดแม่ตะไคร้ 19 / ก.พ. / 2565


 
ห้องสมุดประชาชนอำเภอแม่ออน  จังหวัดเชียงใหม่ 
ที่อยู่ สามแยกบ้านออนหลวย หมู่ที่ 6 ตำบลออนเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ 50130
โทร 0 53 92 9101 โทรสาร 
 0 53 92 9081 E-mail librarymaeon@gmail.com
Powered by MAXSITE 1.10   Modify by   นิกร เกษโกมล   Version 2.05HD  Update by   นายบุญมา มาดี